Business

หวังอานิสงส์ก่อสร้างภาครัฐ 8 แสนล้าน ดันซัพพลายอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัว

สมาคมวิศวกรโครงสร้างไทย หวังก่อสร้างภาครัฐ ดันซัพพลายอุตสาหกรรมก่อสร้างปี 2565 ฟื้นตัว แนะรับเหมาปรับตัวใช้เทคโนโลยี โซลูชันรองรับความเสี่ยง

ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ นายก สมาคมวิศวกรโครงสร้างไทย เปิดเผยว่า ในปี 2565 โครงการก่อสร้างภาครัฐ กำลังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนก่อสร้างต่าง ๆ ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการก่อสร้าง เช่น ท่อ ท่อร้อยสาย ลวด ทองแดงให้มีแนวโน้มขยายตัวตามไปด้วย

ก่อสร้างภาครัฐ

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน มีโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นอานิสงส์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว เช่น โครงการนำสายไฟลงดิน โครงการส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า การวางระบบท่อเพื่อแก้ไขปัญหาการระบายน้ำในเขตเมือง และแก้ไขปัญหาอุทกภัย รวมไปถึงการวางโครงข่ายด้านอินเทอร์เน็ตให้มีความครอบคลุม

การเติบโตดังกล่าว ยังถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะเข้าถึงโครงการก่อสร้างภาครัฐที่มีมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัว 6.4% จนถึงปี 2567

โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับ EEC โครงการขยายเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางรางและถนน รวมถึงงานซ่อมแซม วางระบบกลุ่มสถานที่ต่าง ๆ เช่น อาคารสำนักงาน ระบบสุขาภิบาล ฯลฯ

ดังนั้น จึงมองว่าโอกาสในด้านมูลค่า คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอานิสงส์สำคัญสำหรับทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย ซึ่งกลุ่มรายใหญ่จะมีโอกาสอย่างมากในกลุ่มการรับเหมาในโครงการก่อสร้าง หรือการซ่อมแซมขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า ระบบคมนาคม

ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ
ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ

ขณะเดียวกัน ยังรวมถึงโอกาสการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ที่ต่างมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวความเป็นเมือง รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย มองว่าจะมีโอกาสรับเหมาช่วงจากผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงโอกาสงานซ่อมแซมและปรับปรุงอาคาร

สิ่งที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นคือ เพิ่มการลงทุนด้านเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน ระยะเวลาในการก่อสร้าง รวมถึงลดอัตราการผิดพลาดจากงานแต่ละประเภทให้น้อยลง

ภาพอุตสาหกรรมก่อสร้าง 6

นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มการนำนวัตกรรมมาใช้ในการก่อสร้าง เช่น วัสดุก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน การเพิ่มความทนทานในวัสดุบางชนิด เพื่อรองรับความเสี่ยงประเภทต่าง ๆ อาทิ ลดการรั่วไหลและการเป็นสนิมของท่อประปา การรองรับภาวะการทรุดตัวของดิน เป็นต้น

โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน ที่มีแนวโน้มขยายตัวในปีนี้ และในอนาคต ยังเป็นโอกาสสำคัญของกลุ่มงานประเภท วิศวกรรมโครงสร้าง และเทคโนโลยีด้านการประเมินความเสี่ยง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีจำลองอาคารเสมือนจริง (BIM) หุ่นยนต์ (Robotics) ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในด้านการควบคุม – ตรวจสอบความมั่นคงงานก่อสร้างแต่ละประเภทให้มากขึ้น

นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า นอกเหนือจากในประเทศไทยแล้ว ประเทศสมาชิกอาเซียน ก็มีโครงการลงทุนต่าง ๆ จากภาครัฐที่มากถึง 850 โครงการ โดยประเทศที่มีขนาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดคือ ประเทศอินโดนีเซีย และอันดับรองลงมาคือไทยและฟิลิปปินส์

นายเกอร์นอท ริงลิ่ง
เกอร์นอท ริงลิ่ง

การลงทุนเหล่านี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมด้านการก่อสร้างจำพวกเหล็ก ท่อ ท่อร้อยสาย ทองแดง ลวดในภูมิภาคนี้มีโอกาสฟื้นตัว และขยายตัวมากขึ้น

จากการศึกษาพบว่า การถูกนำไปใช้จะมาจากการก่อสร้างระบบการขนส่งทางถนน 45% การก่อสร้างทางราง 20% การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอากาศยาน 10% และอีก 25% คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการบริหารจัดการน้ำ เช่น การก่อสร้างเขื่อน ระบบการระบายน้ำ และการพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม เช่น นิคมอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ

ภาพรวมเหล่านี้ยังทำให้ในเอเชียและยุโรปยังคงสนใจที่จะใช้ไทยและอาเซียนเป็นฐานการกระจายสินค้า และฐานการผลิตด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่อีกด้วย

ภาพขนส่งทางราง 2

ล่าสุด เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย เตรียมจัด 4 กิจกรรมใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่

1. งานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมลวด เคเบิล ครั้งที่ 14 สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Wire Southeast ASIA 2022)

2. งานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมท่อและท่อร้อยสาย ครั้งที่ 13 สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Tube Southeast ASIA 2022)

3. งานแสดงสินค้าและฟอรั่มนานาชาติด้านการหล่อโลหะเพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 (GIFA Southeast Asia 2022)

4. งานแสดงสินค้าและฟอรั่มนานาชาติด้านโลหะวิทยาเพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 (METEC Southeast Asia 2022)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo