ธ.ก.ส. เติมทุน 5 พันล้าน หนุนผู้ประกอบการธุรกิจ ‘กัญชา’ ต้นน้ำยันปลายน้ำ ยก ‘บุรีรัมย์โมเดล’ สร้างมูลค่าทางการแพทย์
นายยุวพล วัตถุ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ ซึ่งดำเนินงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรกัญ ชา และส่งจำหน่ายไปยังโรงพยาบาลนาโพธิ์และโรงพยาบาลคูเมือง เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยผ่านการแพทย์ทางเลือก โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานในพื้นที่และเกษตรกรสมาชิก ให้การต้อนรับ ณ วิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ ตำบล คูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
นายยุวพล เปิดเผยว่า จากการปลดล็อกพืชกัญ ชา-กัญชง เพื่อสนับสนุนการแพทย์ทางเลือก ตามแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพร ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560 – 2565 ภายใต้การกำกับดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศเหมาะสมในการปลูกกัญ ชา-กัญชงบางสายพันธุ์ โดยสามารถนำผลผลิตไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อาทิ ช่อดอก เมล็ด เปลือกลำต้น และราก
นอกจากนั้นยังสามารถต่อยอดการแปรรูปกัญ ชา ไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น น้ำมันสกัด ยาแผนไทย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ กระดาษ สิ่งทอ และวัตถุดิบในอาหาร/เครื่องดื่ม เป็นต้น
โดยคาดว่า แนวโน้มมูลค่าตลาดกัญชาโลก จะเติบโตและขยายไปในหลายธุรกิจ ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยการนำร่องเติมทุนสนับสนุนผู้ผลิตกัญชาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อการผลิตกัญชา วงเงินรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
คุณสมบัติผู้กู้
- เป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคมและสหกรณ์การเกษตร ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- ผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิตต้องไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และต้องผ่านการอบรมหลักสูตรการปลูกพืชกัญชา
- มีการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษา
- มีใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- ดำเนินการผลิตด้วยเกษตรอินทรีย์ (Organic Farming) หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) ตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP)
อัตราดอกเบี้ย MLR + ตามชั้นความเสี่ยง กรณีกู้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการผลิต กำหนดระยะเวลาชำระคืนภายใน 12 เดือน พิเศษ ไม่เกิน 18 เดือน กรณีกู้เป็นค่าลงทุนในการผลิต กำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี และกรณีเพื่อชำระหนี้สินเดิม (Refinance) จากการลงทุนสร้างโรงเรือนและมีหลักประกันจำนอง กำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี ระยะเวลาโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2568
บุรีรัมย์โมเดล ปลูก-แปรรูป เพิ่มมูลค่าทางการแพทย์
นายยุวพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ อำเภอคูเมือง ซึ่งดำเนินธุรกิจในการปลูก แปรรูป นำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์กัญ ชา ทั้งในรูปแบบใบชา ยาแผนไทยและแผนปัจจุบัน ภายใต้ “บุรีรัมย์โมเดล” ร่วมกับโรงพยาบาลนาโพธิ์และโรงพยาบาลคูเมือง (Khumuang Hospital Medical Cannabis) ซึ่งเริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของสมาชิกที่มีความสนใจและความรู้ในด้านการปลูกพืชสมุนไพรกว่า 50 คน
โดยร่วมมือกับไร่อรุณฟาร์มที่เชี่ยวชาญในการปลูกเมล่อนแบบไร้สารพิษ ในการพัฒนาพื้นที่ไปสู่ศูนย์ผลิตสมุนไพรทางการแพทย์ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ อำเภอคูเมือง มีการปลูกกัญ ชา ออร์แกนิคกว่า 4 สายพันธุ์ในระบบโรงเรือนแบบปิด รอบละ 120 ต้น สามารถเก็บผลผลิตได้ทุก 3 เดือน ได้ผลผลิตช่อดอก 15 กิโลกรัม และสามารถจำหน่ายได้กว่า 2,250,000 บาทต่อรอบ
และการปลูกระบบ Green House รอบละ 120 ต้น เก็บผลผลิตได้ทุก 6 เดือน ได้ผลผลิตช่อดอก 30 กิโลกรัม และสามารถจำหน่ายได้กว่า 3,000,000 บาทต่อรอบ ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อในการผลิตและการต่อยอดไปสู่การแปรรูปต่าง ๆ เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนได้เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดกัญ ชา
ปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการผลิตกัญ ชาไปแล้วกว่า 7.1 ล้านบาท และคาดว่าตลาดพืชสมุนไพร ทั้งกัญ ชาและกัญชงจะเป็นความหวังและโอกาสใหม่ให้กับภาคเกษตรกรรมไทย ไปสู่การยกระดับชีวิตเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้หลัก BCG ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนุน ‘ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ’ ดัน ‘กัญ ชา-กัญชง’ เข้าสปาและนวดไทย ช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด
- สธ.แจง ‘กัญ ชาทางการแพทย์’ อิงสหประชาชาติ จ่ายยาแล้วกว่า 4.5 แสนครั้ง
- โพลเผย กว่าครึ่ง ไม่เห็นด้วย ‘เสรีกัญ ชา’ ห่วงเยาวชนเสพติด แต่ยอมรับเป็นความหวังใหม่ทางธุรกิจ