Business

นายกฯ หารือผู้ว่าการ JBIC และ นักธุรกิจญี่ปุ่น ตอกย้ำความร่วมมือ 2 ประเทศ

นายกฯ หารือผู้ว่าการ JBIC และ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น ตอกย้ำความร่วมมือ 2 ประเทศ เน้นย้ำความพร้อมของไทย สู่ฐานการลงทุนในภูมิภาค

วันนี้ (27 พ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ณ ห้อง Salon โรงแรมอิมพีเรียล โตเกียว กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมหารือกับนายมาเอดะ ทาดาชิ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) และนายมุราอิ ฮิเดกิ ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ตอกย้ำความร่วมมือ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้พบกับผู้ว่าการ JBIC อีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งได้พบกันที่ประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตามที่ JBIC ได้แจ้งถึงเป้าหมายของรัฐบาลญี่ปุ่น ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของไทย

ตอกย้ำความร่วมมือ

หนุนไทย ประธาน APEC 2022 เน้นย้ำความพร้อมไทย สู่ฐานการลงทุนในภูมิภาค

และชื่นชม ผู้ว่าการ JBIC เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ที่มีส่วนสำคัญในร่างนโยบายที่เน้นการกระจายรายได้ควบคู่กับการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่น

ด้านผู้ว่าการ JBIC กล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้พบนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่มีศักยภาพ และเป็นรูปธรรมในหลากหลายสาขา โดยหลังจากที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยและกลับมาที่ญี่ปุ่น ผู้ว่าการ JBIC ได้ประชุมและสานต่อ สิ่งที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีไว้ และยังได้ยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในทุกระดับ รวมถึงพร้อมสนับสนุนการเป็นประธาน APEC 2022 ของไทย

ทั้งสองฝ่ายต่างเชื่อมั่น ในความเป็นพันธมิตรที่สำคัญ ของไทยและญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี จึงหวังว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนไทย ในสาขาความร่วมมือต่างๆ โดยไทยมีที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางอาเซียน จึงอยากให้ไทยมีความเข็มแข็ง โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ เพื่อที่จะได้ร่วมดูแลประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ให้เติบโตและเข้มแข็งไปด้วยกัน

ตอกย้ำความร่วมมือ

ตอกย้ำความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจ และกิจกรรมทางธุรกิจ ไทย – ญี่ปุ่น

จากนั้นในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายโทคุระ มาซาคาสึ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) และนายซูซูกิ โยชิฮิสะ ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น ภายใต้เคดันเรน สรุปสาระสำคัญดังนี้

ในโอกาสเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ภาคเอกชนถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของสองฝ่าย โดยรัฐบาลไทยหวังที่จะร่วมมือกับเคดันเรนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และกิจกรรมทางธุรกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่นต่อไป

ตอกย้ำความร่วมมือ

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณ และเห็นพ้องว่า ทั้งสองฝ่ายต้องมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพอีกมาก เพื่อเตรียมการไว้รองรับหากเกิดความท้าทายใหม่เกิดขึ้นในอนาคตอีก

ทั่งนี้ นายโทคุระ กล่าวว่า เคดันเรนได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น โดยมีบริษัทเข้าร่วมกว่า 70 บริษัท ภาคธุรกิจยินดีที่ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ไทยเป็นฐานสำคัญของญี่ปุ่นในอาเซียน และความตกลง RCEP มีส่วนส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ จึงหวังว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านี้ ไทยยังถือเป็นส่วนนึ่งของ supply chain ที่สำคัญ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การแลกเปลี่ยนบุคลากร เทคโนโลยีในช่วงของความท้าทายต่างๆ ในปัจจุบันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ตอกย้ำความร่วมมือ

สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น กว่า 70 บริษัท มีแผนเยือนไทย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ การมีการค้าที่อิสระ เปิดกว้าง และเป็นธรรม จึงมีความสำคัญมาก โดยภาคเอกชนญี่ปุ่นยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทยเข้าร่วม IPEF นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังยินดีและเห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้ทราบว่า คณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่นของเคดันเรน ซึ่งมีสมาชิกกว่า 70 บริษัท มีแผนจะเยือนไทย โดยเชื่อมั่นในภาคเอกชนซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางโลก และเชื่อมั่นในความสำคัญของเคดันเรน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo