Business

คลัง ‘ยกเว้นอากรศุลกากร’ 40% นำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่สำเร็จรูปทั้งคัน ราคาไม่เกิน 2 ล้าน

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงการคลัง ‘ยกเว้นอากรศุลกากร’  40% นำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่สำเร็จรูปทั้งคัน ราคาไม่เกิน 2 ล้าน จนถึงสิ้นปี 66

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ กระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่เข้ามาทั้งคัน โดยระบุว่า เพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 12 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ยกเว้นอากรศุลกากร

ยกว้นอากร รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

ข้อ 1 ในประกาศนี้

“รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป” หมายความว่า รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคนแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) ซึ่งประกอบสำเร็จรูปและนำเข้ามาทั้งคัน (Completely Built Up : CBU)

ข้อ 2 ให้ลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่นำเข้า ตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ดังต่อไปนี้

(1) รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป ที่มีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกินสองล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้นำของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระไม่เกินร้อยละสี่สิบ ให้ได้รับการยกเว้นอากร

(ข) ผู้นำของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระมากกว่าร้อยละสี่สิบ ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีกร้อยละสี่สิบ

(ค) ผู้นำของเข้าที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือร้อยละสี่สิบ

ยกเว้นอากรศุลกากร

(2) รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปที่มีขนาดตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป และมีราคาขายปลีกแนะนำมากกว่าสองล้านบาท แต่ไม่เกินเจ็ดล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้นำของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระไม่เกินร้อยละยี่สิบ ให้ได้รับการยกเว้นอากร

(ข) ผู้นำของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชำระมากกว่าร้อยละยี่สิบ ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีกร้อยละยี่สิบ

(ค) ผู้นำของเข้าที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือร้อยละหกสิบ

ข้อ 3 การลดอัตราอากร หรือยกเว้นอากร ตามข้อ 2 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ผู้นำของเข้าตามข้อ 2 (1) ต้องแสดงหนังสือรับรองการแสดงการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต (ยฟ. 01-02/1)

(2) ผู้นำของเข้าตามข้อ 2 (2) ต้องแสดงหนังสือรับรองการแสดงได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต (ยฟ. 01-02/2)

ยกเว้นอากรศุลกากร

ข้อ 4 ในกรณีที่ผู้นำของเข้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด และกรมสรรพสามิตได้แจ้งเพิกถอนหนังสือรับรอง การแสดงการได้รับสิทธิสำหรับของใดกับกรมศุลกากรแล้ว ให้ถือว่าของนั้นไม่ได้รับสิทธิลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรตามประกาศนี้ ตั้งแต่วันนำของเข้า และผู้นำของเข้ามีหน้าที่

ต้องแจ้งขอชำระค่าภาษีอากรตามกฎหมาย ว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนสิทธิ และต้องชำระค่าภาษีอากรให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจำนวนเงินค่าภาษีอากร แต่ไม่ถูกตัดสิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรในการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ตามความตกลงการค้าเสรีที่ได้ยื่นไว้ในขณะนำของเข้า

ข้อ 5 ผู้นำของเข้าต้องปฏิบัติตามพิธีการที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกำหนด

ข้อ 6 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ลงประกาศ ณ วันที่ 22 เมษายน 2565

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo