กรมสรรพสามิต เผย ประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ตามมาตรการสนับสนุนของรัฐแล้ว กว่า 5 พันคัน โตโยต้า ขอเอี่ยวด้วย มีแผนดันรถอีวีออกตลาด
วันนี้ (29 เม.ย.) มีพิธีลงนามข้อตกลง ระหว่าง กรมสรรพสามิต กับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ โตโยต้า มอเตอร์ มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น bZ4X โดยจะขอรับสิทธิลดอากรศุลกากร ลดภาษีสรรพสามิต และรับเงินอุดหนุน เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภค ให้สามารถเลือกซื้อรถยนต์ ไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดี กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบ มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามที่ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เสนอ
มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- ส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยการใช้มาตรการทางภาษี ได้แก่ การลดภาษีสรรพสามิต และการลดอากรศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ได้แก่ การให้เงินอุดหนุน (มาตรการระยะสั้น ปี 2565 ถึง 2568)
- สนับสนุนให้ราคาของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มีราคาลดลงใกล้เคียงกับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน
- สร้างแรงจูงใจ ให้มีการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
- ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเกิดภาวะโลกร้อน
ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า เข้าโครงการกว่า 5 พันคัน
ทั้งนี้ จากการที่ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุน การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เป็นต้นมา ส่งผลให้มีผู้ประกอบอุตสาหกรรม ลงนามในข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตแล้ว จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด , บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
โดยมียอดจองรถยนต์ ไฟฟ้า ที่ขอรับสิทธิตามมาตรการฯ รวมกันทั้งสิ้นกว่า 5,000 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ ไฟฟ้า GWM รุ่น ORA GOOD CAT และ MG รุ่น MG EP และ MG ZS
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ ไฟฟ้าที่ไม่ได้เข้าร่วมมาตรการฯ มียอดจองกว่า 600 คัน ประกอบด้วย VOLVO มียอดจองจำนวน 385 คัน BMW มียอดจองจำนวน 112 คัน MINI มียอดจองจำนวน 58 คัน Porsche มียอดจองจำนวน 58 คัน Nissan มียอดจองจำนวน 19 คัน Audi มียอดจองจำนวน 10 คัน และ TAKANO มียอดจองจำนวน 6 คัน
จากยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า ของประชาาชน คาดว่าส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อการปรับตัว ของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของประเทศไทย อย่างมีนัยสำคัญ และก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ตามแนวทางที่รัฐบาลวางรากฐานไว้ รวมถึงการบรรลุเป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ZEV (Zero Emission Vehicle) โดยเฉพาะเป้าหมายการผลิตรถยนต์นั่ง และรถยนต์กระบะในปี 2030 (พ.ศ. 2573) คิดเป็น 30% ของกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศ
เผยปีนี้ ผู้ประกอบการ จะเข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 5 ราย
นายลวรณ กล่าวว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สนใจเข้าร่วมมาตรการรับการสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ปัจจุบันมีผุ้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์ เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลแล้ว 4 ราย โดยโตโยต้า มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น bZ4X โดยจะได้รับสิทธิการลดอากรศุลกากร การลดภาษีสรรพสามิต และการรับเงินอุดหนุน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคตามที่ได้กล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2565 จะมีบริษัทผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ BEV เข้าร่วมลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการฯ กับกรมสรรพสามิตอีกไม่น้อยกว่า 5 ราย
การที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้เกิดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ก่อให้เกิดอุปสงค์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งเกิดการลงทุน การจ้างงาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 6 ข้อควรรู้ ก่อนถอย ‘รถยนต์ ไฟฟ้า’ มาขับสักคัน
- ปลื้ม ‘รถยนต์ EV’ ไปได้สวย ตั้งเป้าประชาชนใช้ 1.05 ล้านคัน ในปี 2568
- ‘โตโยต้า’ ร่วมด้วย ขอรับการสนับสนุน ‘ผลิตรถยนต์ ไฟฟ้า’ จากรัฐบาล
