Business

LPP วาดยุทธศาสตร์ลุยบริหารจัดการอสังหาฯ ครบวงจร ปักธง 3 ปีเข้าตลาดฯ

“LPP” เปิดยุทธศาสตร์ 5 ปี รายได้ทะลุ 2,300 ล้านบาท เดินหน้าสู่การเป็นบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร พร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2567

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ 5 ปี (2565-2569) มุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำ ในธุรกิจให้บริการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร

บริหารจัดการอสังหา

พร้อมกันนี้ ตั้งเป้ารายได้รวมเพิ่มเป็น 2,300 ล้านบาท ในปี 2569 จาก 857 ล้านบาทในปี 2564 ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่สูงกว่า 200% คิดเป็นเติบโตเฉลี่ยปีละ 22% สูงกว่าการเติบโตของตลาดธุรกิจบริการที่เติบโตปีละกว่า 10%

จากผลการศึกษาของบริษัท พบว่า ตลาดการให้บริการบริหารจัดการอาคารทั่วประเทศ จะมีมูลค่าตลาดรวมไม่น้อยกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี 2565 รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การเติบโตดังกล่าว เป็นผลจากเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการลงทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและอาคารในเชิงพาณิชย์ เฉลี่ยปีละ 3-4 แสนล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ความต้องการผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอาคาร เติบโตตามไปด้วย

ภาพหมู่ผู้บริหาร LPP

ภายใต้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ก้าวเข้าสู่ New S-Curve จึงเป็นโอกาสของ LPP ในฐานะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจการบริหารจัดการอาคารมาถึง 30 ปี จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

เดินหน้ามุ่งบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร

สำหรับแผนการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จะมาจากการรุกและขยายตลาด การขยายธุรกิจและขอบเขตการให้บริการที่ครบวงจร พร้อมทั้งสร้างธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค อาทิ งานด้านวิศวกรรม งานซ่อมบำรุงอาคาร บริการงานสวน กำจัดแมลง เป็นต้น

ในส่วนงานระบบรักษาความปลอดภัยนั้น LPP ได้เปิด บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด (LSS) ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพนอกเหนือจากการใช้พนักงานรักษาความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจในส่วนของการบริหารจัดการโครงการใหม่ จากที่เคยมุ่งเน้นบริหารโครงการให้กับ LPN เป็นหลัก ก็จะขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ๆ ให้มากขึ้น จากเดิมมีสัดส่วน 28% เพิ่มเป็น 45%

LPP

ขณะที่งานบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช่งานบริหารโครงการ รวมถึงธุรกิจใหม่ ๆ คาดว่าจะเติบโตจากสัดส่วนเดิมที่ 30% เป็น 50% ในปี 2569

LPP มุ่งขยายฐานจากการบริหารโครงการพักอาศัยเป็นหลัก ไปสู่การบริหารอาคารในเชิงพาณิชย์ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ศูนย์การค้า หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล และอื่นๆ ให้มากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้  LPP ได้ขยายธุรกิจสู่บริการบนแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ในชุมชน ภายใต้ชื่อ Living24 Store เพื่อเป็นช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าและบริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ นำเสนอสินค้าและมอบส่วนลดราคาพิเศษสำหรับจำหน่ายบน Living24 Store

ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติให้ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด มีการบริหารงานที่เป็นอิสระ โดยยังคงฐานะเป็นบริษัทในกลุ่ม แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ แต่สามารถกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีอิสระ

shutterstock 197608520 scaled

ด้านนายอภิชาติ เกษมกุลศิริ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ และกรรมการบริษัท บริษัท แอล พี พีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้วางแผนส่ง LPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2567

หลังจาก LPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,000 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปี หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ แอล.พี.เอ็น.ฯ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 7,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 เป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบัน แอล พี พีฯ ให้บริหารจัดการอสังหาฯ ครบวงจร มีลูกค้ากว่า 200 โครงการ 160,000 ครอบครัว และผู้พักอาศัยจำนวนกว่า 300,000 คน ไม่รวมงานบริการด้านอื่นๆ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo