“สยามพารากอน” เปิดเคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว ชี้กระตุ้นทัวร์ริสต์ให้จับจ่าย กระจายรายได้ตามนโยบายรัฐบาล
ตามที่มีประกาศกรมสรรพากรให้สิทธิตั้งตัวแทนเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โครงการ Downtown VAT Refund for Tourists หรือ เคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นจุดรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จัดให้เป็นบริการสาธารณะที่สามารถมาขอรับคืนภาษี จากสินค้าที่ซื้อจากผู้ประกอบการในระบบ VAT Refund ทุกราย โดยจะคืนเป็นเงินสดในสกุลเงินบาทเท่านั้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวนำกลับมาจับจ่ายใช้สอยได้ทันที เป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มรายได้ รวมถึงสามารถกระจายรายได้ในส่วนนี้ไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยต่อไป
บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้ร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกจัดตั้ง บริษัท แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งได้ร่วมยื่นขอเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวจากกรมสรรพากร ณ สถานที่ 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ
1. ศูนย์การค้าสยามพารากอน
2. เซ็นทรัล เวิลด์
3. เซ็นทรัล ชิดลม
4. โรบินสัน สุขุมวิท
และ 5. ดิ เอ็มโพเรียม โดยศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จุดให้บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว มีความพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มที่
นายชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร รองกรรมผู้จัดการใหญ่อาวุโส สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ และกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร ด้วยการเปิด เคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว (Downtown VAT Refund for Tourists) ในศูนย์การค้าสยามพารากอน ถือเป็นจุดหลักสำหรับนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ชั้น G ที่มองเห็นได้ง่าย เพราะอยู่บริเวณฝั่งด้านหน้าศูนย์ฯ ใกล้กับจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และจุดจอดรถแท็กซี่ เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งได้จัดเตรียมพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ ผ่านเรียนรู้ระบบและการทำเอกสารที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ซึ่งพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
เคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่สยามพารากอนนี้ พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ผู้ที่เข้ามาจับจ่ายในสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เท่านั้น แต่ยังพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายจากทุกที่ในประเทศไทยที่เป็นการช้อปปิ้งตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
โดยเฉพาะการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ย่านสยาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาโดยตลอด มีผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอีก และผู้ประกอบการรายย่อย เป็นศูนย์รวมของร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ ที่มีความโดดเด่น หลากหลาย และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว บนพื้นที่รีเทลย่านสยาม รวมกว่า 2,000,000 ตารางเมตร มีโรงแรมที่พักรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 20 แห่ง ที่สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้กว่า 3,000 ห้อง มีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักยอดนิยมของนักท่องเที่ยว รวม 3 สถานีหลัก ได้แก่ สถานีสยาม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และสถานีราชเทวี
ขณะที่จำนวนนักนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายในย่านสยาม รวมถึงในศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม รวมกว่า 400,000 – 500,000 คนต่อวัน ซึ่งมีศักยภาพจับจ่าย โดยดูได้จากสถิติการยื่นแบบคําร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับนักท่องเที่ยว หรือ ภพ 10 พบว่าในปี 2560 มีจำนวนใบ ภพ 10 ที่ออกจากร้าค้าและพื้นที่ค้าปลีกในศูนย์การค้าสยามพารากอน จำนวน 342,494 ใบต่อปี หรือเฉลี่ย 938 ใบต่อวัน ถือเป็นศูนย์กลางของการออก ภพ10 ที่มีจำนวนมาก
จากศักยภาพของย่านสยาม จึงมั่นใจว่าเคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน จะเป็นจุดหลักที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาใช้บริการ เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับเงินคืนภาษีแล้วจะใช้จ่ายต่อเนื่องสร้างเม็ดเงินหมุนวียนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
“มาตรการนี้จะเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวและสามารถกระตุ้นการตัดสินใจให้เดินทางมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในประเทศไทย ส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นและบ่อยขึ้นได้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ การเปิดเคาน์เตอร์บริการคืนภาษีในเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยตรง และสร้างประโยชน์ในหลายมิติ
1. มูลค่าเงินที่จะหมุนเวียนกลับเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับเงินภาษีคืนและนำไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้มากขึ้น
2. การเติบโตของยอดขายสินค้า มูลค่าการซื้อขายสินค้าที่ผู้ประกอบการได้เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับอัตราการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจและอัตราการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
3. ปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอาศยานดอนเมืองลดลง เกิดความสะดวกรวดเร็วและสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว
และ 4. ส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น
