เยียวยา 50% ช่วยลูกจ้าง-นายจ้าง ข่าวดี! ประกันสังคม ผุดมาตรการ จ่ายเงินเยียวยา 50% ช่วยลูกจ้าง-นายจ้าง กระทบโควิด-19 พร้อมคุณสมบัติและสิทธิที่ได้รับและข้อปฏิบัติ
นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีความพร้อมในการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย
โดยคุณสมบัติ
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนใน 15 เดือน
ผู้ประกันตนไม่ได้ทำงานหรือนายจ้างให้หยุดงานเนื่องจากต้องกักตัว หรือหน่วยงานรัฐมีคำสั่งให้นายจ้างหยุดประกอบกิจการเป็นการชั่วคราวและลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้าง
สิทธิที่ได้รับและข้อปฏิบัติ
รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
ลูกจ้างผู้ประกันตนไม่ต้องขึ้นทะเบียนว่างงานกับสำนักงานจัดหางาน ให้ยื่นเฉพาะคำร้องขอรับประโยชน์ทดแทน
ลูกจ้างดาวน์โหลดและกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ม สปส.2-01/7 บน www.sso.go.th
นายจ้างไม่ต้องแจ้งลาออกหรือเลิกจ้าง แต่ให้ส่งหนังสือรับรองว่าลูกจ้างไม่ได้ทำงานกี่วัน
เยียวยา 50% ช่วยลูกจ้าง-นายจ้าง
นายจ้างบันทึกข้อมูลลูกจ้าง ส่งแบบฯและหนังสือรับรอง ไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ในที่ตั้งของสถานที่ทำงาน ส่งทางไปรษณีย์ (ลงทะเบียน) ภายใน 3 วันทำการ
แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของลูกจ้างและหนังสือรับรองการหยุดงาน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานประกันสังคม ให้ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น สอบถามได้ที่สายด่วน 1506 กด 1 ตลอด 24 ชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมพร้อมด้วย นายอภิชัย อร่ามศรีรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีตรวจเช็คความพร้อมการให้บริการตรวจคัดกรองโควิด -19 ให้กับผู้ประกันตน ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองพิมลราชถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เช็กความพร้อมก่อนเปิดหน่วยบริการตรวจโควิด -19 เชิงรุกแก่ผู้ประกันตนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีในวันที่ 25 เมษายน -1 พฤษภาคม นี้
เลขาธิการสปส. นำทีมตรวจคัดกรองโควิด -19
นายทศพล กล่าวว่ารัฐบาล มีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตน จึงได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด -19 เชิงรุกให้กับผู้ประกันตนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นภายใต้โครงการ“ แรงงานเราสู้ด้วยกัน” เป้าหมายเพื่อดูแลผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 โดยเพิ่มช่องทางบริการตรวจเชื้อให้กับผู้ประกันตนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อลดปัญหาความแออัดการตรวจคัดกรองในโรงพยาบาลและให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้อย่างสะดวกรวดเร็วไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
นายทศพล กล่าวว่าตนและคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจความพร้อมของสถานที่ที่จะเพิ่มช่องทางหน่วยบริการตรวจกรองโควิด -19 ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ เทศบาลเมืองพิมลราชอำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรีโดยได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์พยาบาล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลรัตนาธิเบศร์ มาให้การบริการตรวจคัดกรองให้กับผู้ประกันตน
ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ต้องการเข้ารับการตรวจคัดกรองสามารถลงทะเบียนผ่าน https://www.google.com แล้วพิมพ์คำว่า“ แรงงานเราสู้ด้วยกัน” แล้วคลิกที่เว็บไซต์ https: //sso,icntracking.com/icntracking/self register.php จากนั้นผู้ประกันตนกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักหรือเลขพาสปอร์ตกรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขกำหนดซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโดยศูนย์คัดกรองฯ สามารถรองรับการตรวจได้วันละ 500 คน
เยียวยา 50% ช่วยลูกจ้าง-นายจ้าง
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความห่วงใยมายังพี่น้องผู้ประกันตนทุกคนจากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในขณะนี้ จึงกำชับให้กระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดพื้นที่สีแดงหรือจังหวัดที่มีการควบคุมสูงสุด และกระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช. เพิ่มช่องทางหรือทางเลือกเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัด ลดการแพร่ระบาด ไม่ต้องรอคิวนาน ตรวจเสร็จแล้วหากพบติดเชื้อส่งรักษาทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดำเนินการตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ตามโครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน
ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40
โดยพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ศูนย์เยาวชน (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง เริ่มตรวจจริงเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา และขยายจุดตรวจไปยังจังหวัดพื้นที่สีแดง ตั้งแต่วันที่ 24 -30 เม.ย.64 ในจังหวัดปทุมธานี ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดชลบุรี ที่โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดเชียงใหม่ที่ รพ.นครพิงค์ รพ.สันป่าตอง รพ.มหาราช รพ.ราชเวช รพ.เทพปัญญา รพ.ลานนา และ รพ.เชียงใหม่ใกล้หมอ และจังหวัดนนทบุรี ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองพิมลราช
นายสุชาติ กล่าวว่าตนได้ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมการให้บริการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสายด่วน 1506 กด 6 ที่สำนักงานประกันสังคม ที่เปิดให้บริการเพื่อเป็นช่องทางติดต่อให้กับผู้ประกันตน ที่ไม่สามารถหาสถานที่ตรวจและสถานพยาบาลเข้ารับการรักษาในกรณีติดเชื้อได้ โดยจะให้คำแนะนำผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ให้คำปรึกษาการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้คำแนะนำหลักเกณฑ์การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ ศูนย์กีฬาเวสน์ 1 ดินแดง ให้คำแนะนำในการดูแลตนเองหลังการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สถานพยาบาล รวมถึงการส่งตัวผู้ประกันตนที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล และแนะนำเรื่องอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 โดยจะให้บริการทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตะลึง! ตรวจพบโควิดผู้ประกันตนกว่า 400 คน
- ด่วนนนทบุรี ! ผู้ว่าฯ ออกคำสั่งห้ามออกจากบ้านหลัง 3 ทุ่มถึงตี 4
- วิกฤติโควิด กทม. เหลือ ‘เตียงไอซียู’ รองรับได้ไม่เกิน 8 วัน เร่งมือขยายด่วน!