ในปี 2563 ที่ผ่านมา ผู้ประกันตนในกองทุน ประกันสังคม จำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่อง
ผู้ประกันตนส่วนหนึ่ง เช่น กลุ่มขอคืนไม่ได้ขอทาน จึงยื่นข้อเรียกร้องให้สำนักงานประกันสังคมคืนเงินสมทบชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยมองว่า เงินชราภาพดังกล่าวเป็นเงินสมทบของผู้ประกันตน จึงควรเปิดทางให้ดึงมาใช้ได้ยามเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม กองทุนประกันสังคมไม่มีระเบียบให้นำเงินชราภาพออกมาใช้ก่อนกำหนด เพราะตั้งเป้าให้เป็นเงินใช้จ่ายหลังจากผู้ประกันตนเกษียนอายุการทำงานแล้ว
ผู้ประกันตนจึงออกมาเรียกร้องประเด็นนี้อย่างต่อเนื่องทั้งบนโลกออนไลน์และโลกความเป็นจริง จนมีการตั้งคณะกรรมการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและมีข้อสรุปเรื่องแนวทางช่วยเหลือ 2 แนวทาง คือ การปล่อย เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และ การดึงเงินชราภาพมาใช้ได้ ซึ่งเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ประกันสังคม ให้พิจารณาในเร็วๆ นี้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงาน สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการหาแนวทางศึกษารายละเอียดและขั้นตอนของกฎหมาย ถึงความเป็นไปได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกันตนให้มากที่สุด
โดยที่ผ่านมา นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และในการประชุมบอร์ด ประกันสังคม ครั้งที่ 21/2563 วันที่ 27 ตุลาคม 2563 มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) ประกอบด้วยผู้แทนไตรภาคีจากภาครัฐ นายจ้าง ลูกจ้าง รวมถึงผู้แทนจากกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยให้คำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบของแนวทางต่างๆ ต่อสิทธิประโยชน์ ของผู้ประกันตนในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกันตน
สรุป 2 แนวทางดึง “เงินชราภาพ” ประกันสังคม
ล่าสุดวานนี้ (3 ธ.ค. 63) นางบุปผา พันธุ์เพ็ง ผู้ตรวจราชการกรม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวว่า บอร์ดประกันสังคมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเรียกร้อง ของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยให้คำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบของแนวทางต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกันตน ซึ่งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจชุดนี้ ได้ร่วมประชุมหารือในเรื่องนี้ 2 ครั้ง
ล่าสุดในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ได้มีมติให้มีการดำเนินการ 2 ระยะ คือ
- ระยะแรก ให้ ประกันสังคม ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่ง เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยผ่านสถาบันการเงิน
- ระยะยาว สำนักงานประกันสังคมจะต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถนำเงินกองทุนชราภาพของผู้ประกันตนมาใช้บางส่วนก่อนกำหนด
ทั้งนี้ จะนำมติของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเสนอบอร์ด ประกันสังคม เพื่อพิจารณาต่อไป
“เงินชราภาพ” คืออะไร?
เงินชราภาพ เป็นเงินสมทบของผู้ประกันตน ซึ่งจะได้รับคืนจากกองทุน ประกันสังคม เมื่อเกษียณอายุในวัย 55 ปีและออกจากงาน เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายและดำรงชีวิตในวัยชรา
เงินชราภาพจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ เงินบำเหน็จชราภาพ และ เงินบำนาญชราภาพ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนคนนั้นๆ โดยกฎหมายปัจจุบันยังไม่เปิดให้ผู้ประกันตนเลือกรูปแบบการรับเงินเองได้ รายละเอียดเป็นดังนี้
กรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง หรือออกจากงาน
กรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน ในอัตรา 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ ก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
กรณีที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพอีกในอัตรา 1.5% ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบเกินทุกๆ 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน
กรณีบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนในกองทุน ประกันสังคม สิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบ ประกันสังคม ต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ
กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ
** ในกรณีผู้รับเงิน “บำนาญชราภาพ” ถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนเสียชีวิต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เดือนสุดท้ายแล้วนะ! ผู้ประกันตนอย่าลืมใช้สิทธิประกันสังคม ‘ทำฟัน’ 900 บาท
- ชาวออฟฟิศโปรดทราบ! สิ้นเดือนนี้ได้ลดเงินสมทบ ‘ประกันสังคม’ งวดสุดท้าย
- ประกันสังคมผุดไอเดีย! ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เปิดทางดึง ‘เงินชราภาพ’ ใช้ยามฉุกเฉิน