Business

ประกันสังคมผุดไอเดีย! ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เปิดทางดึง ‘เงินชราภาพ’ ใช้ยามฉุกเฉิน

“ประกันสังคม” ผุดไอเดีย! ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เปิดทางดึง “เงินชราภาพ” มาใช้ยามฉุกเฉิน ไม่ต้องรอถึงเกษียณอายุ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาเทียบกับต่างประเทศ เผยต้องดูว่าแก้กฎหมายได้เร็วแค่ไหน

นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ รองเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับนายจ้างและลูกจ้างในระบบกองทุนประกันสังคม ผ่านรายการสถานีประกันสังคม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่มีผู้ประกันตนเรียกร้องขอนำเงินสมทบกรณีชราภาพจากกองทุนประกันสังคมออกมาใช้ชั่วคราว เมื่อเกิดความเดือดร้อนหรือเหตุฉุกเฉินเหมือนกรณีโควิด-19 นั้น นางพิศมัยเปิดเผยว่า สำนักงานฯ รับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าวมาจากหลายช่องทางและกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้

ประกันสังคม

ทั้งนี้ การเปิดให้นำเงินสมทบกรณีชราภาพออกมาใช้ชั่วคราว ต้องไปแก้ไขกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร โดยสำนักงานฯ กำลังพิจาณาเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ที่ใช้วิธีเก็บเงินสมทบและจ่ายสิทธิประโยชน์คล้ายๆ กับประเทศไทยว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ประเทศต้นแบบมาหลายประเทศ

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางที่เป็นไปได้ในตอนนี้ คือ อาจปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกันตนผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กองทุนประกันสังคมกำหนด

แนวทางดังกล่าวคล้ายกับกรณีปัจจุบัน ซึ่งกองทุนฯ เปิดให้นายจ้างที่ประสบปัญหาไวรัสโควิด-19 กู้เงินดอกเบี้ยต่ำในอัตรา 3% โดยมีนายจ้างยื่นสมัครเข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก

กรณีที่ผู้ประกันตน หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ เสนอเข้ามา อยากจะนำเงินกรณีชราภาพของตัวเองไปใช้ เราอยู่ระหว่างการศึกษา ขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่า กฎหมายจะแก้ไขได้เร็วขนาดไหน

 

ย้ำวัตถุประสงค์ “เงินสมทบชราภาพ”

อย่างไรก็ตาม เงินสมทบกรณีชราภาพของกองทุน ประกันสังคม มีวัตถุประสงค์ให้นำเงินไปใช้ยามชราภาพจริงๆ โดยผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน ก็จะได้รับเป็นเงินก้อนบำเหน็จ และถ้าจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือนขึ้นไป ก็จะได้รับบำนาญ เพื่อนำไปใช้ยามชรา จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เพราะฉะนั้นการนำเงินชราภาพมาใช้ตอนนี้ ก็เป็นการทำให้เงินให้ผู้ประกันตนหายไปจากระบบ เมื่อถึงเวลาต้องใช้เงินอาจจะลดน้อยถอยลง แต่สำนักงานฯ ก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย

4AUG ประกันสังคม

เตรียมจ่าย 1.5 หมื่นบาท สมทบ “ประกันสังคม” ไม่ถึง 6 เดือน

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า ด้านโครงการจ่ายเงินชดเชยรายได้ 15,000 บาท แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 นั้น จะจ่ายให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้าง/พนักงานบริษัทเอกชน) ที่ไม่ได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยไวรัสโควิด-19 ในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน เนื่องจากจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือนย้อนหลัง

โดยสำนักงาน ประกันสังคม ส่งรายชื่อสถานประกอบการที่หยุดกิจการชั่วคราวและรายชื่อลูกจ้างที่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน จำนวน 5.9 หมื่นรายชื่อ ไปขอเงินชดเชยจากกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังได้อนุมัติเงินชดเชยรายได้ให้เดือนละ 5,000 บาท ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 แต่เนื่องจากเวลาได้ผ่านไปแล้ว จึงจะจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวจำนวน 15,000 บาท

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า หลังจากสำนักงานประกันสังคมได้รับงบประมาณจากกระทรวงการคลังแล้ว ก็คาดว่าจะโอนเงินให้ผู้ประกันตนที่เข้าเกณฑ์ได้ทันที 30,000 กว่าราย ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2563 เนื่องจากระบบประกันสังคมมีข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันตนกลุ่มนี้อยู่แล้ว

ด้านผู้ประกันตนที่เหลือ สำนักงานประกันสังคม ยังไม่สามารถโอนเงินได้ทันที เพราะลูกจ้างกลุ่มนี้ไม่เคยเบิกสิทธิ์ประโยชน์ใดๆ จากกองทุนประกันสังคมมาก่อน ทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากอยู่ในระบบ สำนักงานฯ จึงจะติดต่อลูกจ้างกลุ่มนี้โดยตรง เพื่อให้ส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลบัญชีเงินฝาก

 ลูกจ้างไม่ต้องมายื่นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าการจ่ายเงินส่วนนี้เป็นเงินของกระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ประกันสังคมไม่ได้วินิจฉัย จะสั่งจ่ายโดยตรงจากส่วนกลาง เพราะฉะนั้นการติดตามลูกจ้างให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม จะดำเนินการโดยส่วนกลาง จังหวัดไม่ได้ดำเนินการตรงนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปตามจังหวัดหรือหน่วยบริการ

ประกันสังคม11 1

“เงินชดเชยว่างงานโควิด-19” จ่ายไปแล้ว1.4 หมื่นล้าน

สำหรับการจ่ายเงินกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยโควิด-19 ในอัตรา 62% เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันของกองทุนประกันสังคมนั้น นางพิศมัยกล่าวว่า ล่าสุดกองทุนฯ จ่ายเงินไปแล้วประมาณ 9.1 แสนราย คิดเป็น 8% ของผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั้งหมด 11 ล้านคนและคิดเป็นวงเงินประมาณ 14,000 กว่าล้านบาท

โดยคาดว่าคงจะไม่มีเพิ่มแล้ว เพราะมาตรการจ่ายเงินกรณีเหตุสุดวิสัยโควิด-19 จะเปิดรองรับกรณีว่างงานได้ถึงเดือนสิงหาคม 2563 เป็นเดือนสุดท้าย โดยขณะนี้การจ่ายเงินเหลือตกค้างอีกไม่กี่ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo