บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ โดย “ชวิณ เจียรวนนท์” ดึงนักธุรกิจชั้นนำทั้งในไทย – เอเชีย ตั้งกองทุน “ไนน์ เบซิล” ระดมเงิน 3,700 ล้าน เล็งลงทุนธุรกิจการเงิน อสังหาฯ
นายชวิณ เจียรวนนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหารกลุ่ม บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ และ กองทุนไนน์ เบซิล เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งกองทุน ไนน์ เบซิล (9 Basil) ขึ้น เพื่อจัดสรรการลงทุนในธุรกิจ ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการสนับสนุนจากนักธุรกิจชั้นนำของเอเชียมากมาย
ทั้งนี้ ได้ระดมเงินลงทุนในกองทุนแล้ว 3,700 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจบริการด้านการเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการจัดการและกระจายสินค้า และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์
“เราวางแผนให้กองทุน ไนน์ เบซิล เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ให้กับธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่โดดเด่น และมีศักยภาพในตลาดนั้น ๆ เน้นการลงทุนที่มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน (ROIC) สูง มีโครงสร้างการลงทุนที่เพิ่มมูลค่าในระยะยาว โดยจะให้น้ำหนักการลงทุนกับธุรกิจในประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ”นายชวิณ กล่าว
นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนไนน์ เบซิล ยังส่งผลให้ พอร์ตโฟลิโอการลงทุน ของกลุ่มบลูพริ้นท์ ฟอเรสต์ เพิ่มขึ้นเป็น 4 กองทุน โดยอีก 3 กองทุน ได้แก่ ลอสเลสแคปปิตอล (Lossless Capital) โอเพนฟอเรสต์ (Open Forest) และบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ (Blueprint Forest) ซึ่งมูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งหมดเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท
ด้าน ดร. กฤษณ์ พานิชพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร กองทุนไนน์ เบซิล กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวใจสำคัญของกองทุน ไนน์ เบซิล คือกระบวนการศึกษาวิจัยธุรกิจ ที่จะเข้าไปลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง ด้วยการสร้างองค์ความรู้ ที่สามารถนำไปต่อยอดและปฏิบัติให้เห็นผลได้จริง
ปัจจุบัน บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ บริหารจัดการกองทุน ให้กับครอบครัวกลุ่มธุรกิจชั้นนำกว่า 25 กลุ่มใน 9 ประเทศ และภายใน 5 ปีข้างหน้า บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ ตั้งเป้าที่จะลงทุนต่อปีในอีก 2-3 ธุรกิจ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พร้อมกันนี้ ในการจัดตั้งกองทุน Private Equity กองแรกของ ไนน์ เบซิลนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา ที่ส่วนหนึ่งมาจากผู้ลงทุน (Limited Partner) ในกองทุน อาทิ นายเพชร โอสถานุเคราะห์ จาก โอสถสภา และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ, นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล, นายขจร เจียรวนนท์ จาก 2W กรุ๊ป, แกเบรียล ซิงซัน จูเนียร์ Oakdrive Venture, เคโกะ ทาชิโร Daiwa Securities Group Inc, คริสเตียน เจสัน ชาน กลุ่ม Harmony Assets Developments เป็นต้น
ขณะเดียวกัน กองทุน ไนน์ เบซิล ได้เริ่มลงทุนในบริษัทชั้นนำของไทยมาแล้วจำนวนหนึ่ง อาทิ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจบริการสินเชื่อทะเบียนรถทุกชนิด และเป็นโบรกเกอร์ประกันวินาศภัยที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย และบริษัทบริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด
“เงินติดล้อ เป็นตัวอย่างที่ดีของธุรกิจที่เราให้ความสนใจไปลงทุน ภายนอกนั้นดูเหมือนว่าเงินติดล้อก็ไม่แตกต่างจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เปิดสาขาอยู่ทั่วประเทศ แต่จริงๆ แล้วทีมผู้บริหารของเงินติดล้อ ได้สร้างแพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งมีการใช้ดาต้าเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน ที่เป็นธรรมและโปร่งใส”นายชวิณ กล่าว
สำหรับจุดแข็งของ ไนน์ เบซิลคือ การเปิดประตูสู่เครือข่ายธุรกิจต่างๆ ในเอเชียให้เชื่อมโยงกัน และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในมิติต่างๆ ถือได้ว่า ไนน์ เบซิล คือ พลังของกลุ่มลงทุนรุ่นใหม่ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จากเงินออมเดือนละ 1 พันบาท โตเป็น 1 แสนบาท ด้วยกองทุนรวม RMF
- เจาะลึก ‘กองทุนอสังหาฯ’ ครึ่งปีหลัง คว้าโอกาสลงทุนช่วงดอกเบี้ยต่ำ
- กบข. ปักธงยกระดับมาตรฐาน ขึ้นชั้น ‘กองทุนบำนาญระดับโลก’
