Business

โควิด-19 ฉุดการค้าชายแดน 5 เดือน วูบ 9.71% ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นหลังเปิดด่าน

การค้าชายแดน 5 เดือน ลดลง 9.71% หลังโควิด -19 ทำให้ต้องปิดด่าน ปิดประเทศ ล่าสุดเปิดด่านแล้ว 37 จุด จากทั้งหมด 97 หวังครึ่งปีหลังฟื้นตัว

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติ การค้าชายแดน และผ่านแดนของไทย ช่วง 5 เดือนปี 2563 (มกราคม–พฤษภาคม) มีมูลค่ารวม 524,357 ล้านบาท ลดลง 9.71%

การค้าชายแดน 5 เดือน

ทั้งนี้แบ่งเป็นการส่งออก 305,725 ล้านบาทลดลง 9.03% และการนำเข้า 218,632 ล้านบาทลดลง 10.65% โดยเกินดุลการค้า 87,093 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้การค้าลดลง มาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีการปิดจุดผ่านแดนของไทยทั่วประเทศ ทั้งหมด จาก 97 จุด เหลือเพียง 28 จุด ทำให้การขายไม่คล่องตัว ส่งผลให้การค้าลดลง

หากดูเฉพาะการค้าชายแดน พบว่า มาเลเซีย ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 87,854 ล้านบาท ลดลง 32.43% รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 77,172 ล้านบาท ลดลง 6.59% เมียนมา มูลค่า 73,740 ล้านบาท ลดลง 10.96% และกัมพูชา มูลค่า 70,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.20%

สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า, สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่นๆ ส่วน เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และปูนซีเมนต์ และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง เป็นต้น

1 4

ขณะที่การค้าผ่านแดน จีน เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 90,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.74% โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลไม้สด ยางพารา และเครื่องคอมพิวเตอร์ รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 36,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.83% สินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาป เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า

สำหรับการค้าผ่านแดน เวียดนาม มูลค่า 24,697 ล้านบาท ลดลง 26.71% โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ และประเทศอื่นๆ มูลค่า 63,180 ล้านบาท ลดลง 16.85%

นายกีรติกล่าวว่า แนวโน้มการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะเริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ แต่ยังคงขึ้นอยู่กับการเปิดด่านการค้า เพราะไม่รู้ว่าจะเปิดได้ทั้ง 100% เมื่อไร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้เสนอไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาเปิดด่านเฉพาะสินค้า ซึ่งล่าสุด รัฐบาลได้ออกข้อกำหนด ภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาเปิดช่องทางเข้าออก ด่านจุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรน ในพื้นที่รับผิดชอบ

11 2

ทั้งนี้ เพื่อให้การนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านแดนได้ ตามความจำเป็น และให้มีมาตรการป้องกันโรค เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2563 ทำให้จนถึงวันที่ 7 กรกฏาคม 2563 มีการเปิดด่านเพิ่มแล้ว 12 จุด ได้แก่

  • ไทย-มาเลเซีย จำนวน 4 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา, จุดผ่านแดนถาวรด่านบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส, จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา และจุดผ่านแดนถาวรด่านตากใบ จ.นราธิวาส
  • ไทย-เมียนมา จำนวน 6 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี, จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสินขร จ.ประจวบคีรีขันธ์, จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยผึ้ง จ.แม่ฮ่องสอน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแสบ จ.แม่ฮ่องสอน และจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) จ.กาญจนบุรี
  • ไทย-สปป.ลาว จำนวน 1 จุด คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน อ.สองแคว จ.น่าน
  • ไทย-กัมพูชา จำนวน 1 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

ปัจจุบันมีด่านที่เปิดแล้ว 37 จุด จากทั้งหมด 97 จุด โดยเป็นด่านถาวร 31 จุด จากทั้งหมด 42 จุด ด่านผ่อนปรนการค้าและท่องเที่ยว 4 จุด จาก 52 จุด ด่านผ่อนปรนพิเศษ 1 จุด และด่านชั่วคราว 1 จุด ถือว่ายังเปิดไม่มาก เมื่อเทียบกับด่านที่มีอยู่ทั้งหมด

“กรมฯ จะผลักดันและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเปิดด่านต่อไป โดยเฉพาะด่านถาวรที่เหลืออีก 11 ด่าน ซึ่งเป็นด่านติดกับเมียนมา และสปป.ลาว” นายกีรติ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo