Business

อัพเดท 5 ‘เทรนด์จิลเวลรี่ ยอดนิยมในสหรัฐ ฝ่าโควิด-19

ช่วงเวลาที่ทุกอย่างรอบตัวดูแย่และไม่เป็นไปอย่างที่คิด ควรใช้ช่วงเวลานี้อัพสกิลพัฒนาตัวเอง เผื่อจะพบโอกาสใหม่หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด-19 นี้ไป โดยเครื่องประดับถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่สายแฟทั้งหลายให้ความสำคัญ แน่นอนว่าในแต่ละปีก็มีเทรนด์ใหม่ๆ ออกมา ดีไซน์เนอร์เครื่องประดับหลายคนได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากวงการออกแบบแฟชั่น

ทุกปีนักออกแบบเสื้อผ้าแทบทุกแบรนด์จะพยากรณ์แนวโน้มและทิศทางสินค้าแฟชั่นในอนาคตและนำเสนอแนวคิดผ่านการจัดงานแสดงแฟชั่นตามเมืองศูนย์กลางแฟชั่นโลก ดังเช่นการจัดงานแสดงแฟชั่น ณ กรุงนิวยอร์กเมื่อปลายเดือนกันยายนปีที่ผ่านมามีนักออกแบบแฟชั่นการนำเสนอแนวโน้มสินค้าเครื่องประดับที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาในปี 2563 ดังนี้

04

1. เครื่องประดับแบบตุ้ม (Ball) โดยเทรนด์เครื่องประดับดังเช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู ถูกออกแบบด้วยการผสมผสานลูกตุ้มมาเป็นส่วนประกอบ

2. สร้อยคอขนาดใหญ่หรือยาวกว่าปกติ (Big or Long Necklaces) กลับมาฮิตอีกครั้งกับสร้อยคอหรือโชกเกอร์ (Choker) ขนาดใหญ่หรือยาวที่มีลักษณะโดดเด่นเปรียบเสมือนการสวมใส่ผลงานศิลปะ

08 1

3. ต่างหูขนาดใหญ่หรือต่างหูไม่เหมือนกัน (Big Hoop or Asymmetrical Earrings) เทรนด์นี้คล้ายกับสร้อยคอที่เน้นขนาดเครื่องประดับให้โดดเด่น แสดงถึงความนำสมัย และฉีกรูปแบบต่างหูแบบเดิมๆ

4. เครื่องประดับไข่มุกและวัสดุธรรมชาติ (Pearl or Natural Materials) เทรนด์กระแสหันกลับไปสู่ธรรมชาติใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน

05 1

5. เครื่องประดับข้อเท้าหรือรองเท้า (Shoes or Ankle Bracelets) การสร้างจุดเด่นและความมีสไตล์ช่วยเพิ่มความหรูหราสำหรับข้อเท้าและรองเท้าให้ผู้สวมใส่

นักออกแบบเครื่องประดับไทยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับในระดับนานาชาติมานานและสินค้ามีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการในสหรัฐฯ เพราะมีความละเอียดและประณีตในการผลิตสินค้า ใครมีฝีมืออย่าปล่อยให้กำลังใจถดถอยไปกับสภาวการณ์ครั้งนี้ แต่ต้องมองหาโอกาสและช่องทางใหม่ที่จะเติบโตและอยู่รอดได้ในอนาคต

07

ข้อควรรู้

สินค้ากลุ่มเครื่องประดับส่งออกจากไทยเกือบทั้งหมดได้รับสิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้า (ร้อยละ 0) ภายใต้โครงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกาการเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preference) โดยมีผลถึงสิ้นปี 2563 ยกเว้นสินค้าดังต่อไปนี้

  • สินค้าแร่เงินอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 3.0
  • สินค้าเครื่องเงินชุบอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 5.0
  • สินค้าเครื่องประดับโลหะทองหรือทองคำขาวอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 5.5
  • สินค้าเครื่องครัวจากโลหะเงินอื่น ๆ อัตราภาษีร้อยละ 3.0

 

Avatar photo