Business

5 เดือนท่องเที่ยวโตต่อเนื่องคาดทั้งปี 39 ล้านคน

thumbnail 2 อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ถือเป็นฟันเฟืองหลักของระบบเศรษฐกิจประเทศ สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นมูลค่ารวมถึง 2.75 ล้านล้านบาทในปี 2560 ซึ่งคิดเป็น 20% ของ GDF ประเทศไทย และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 35 ล้านคน และในปี 2561 ได้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเป็น 37 ล้านคน ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อัพเดทสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 ว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2561 นี้มีบรรยากาศที่ดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วมากกว่า 16 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า 48 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ให้ประเทศแล้วมากกว่า 1.2 ล้านล้านบาท

ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจาก มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางภาครัฐ รวมทั้งการพัฒนายกระดับมาตรฐานคุณภาพของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบกับสถานการณ์โดยรวมดูดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทำให้เชื่อว่าปัจจัยบวกที่จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทย ในช่วงครึ่งปีหลังสามารถเติบโตได้อีกมาก

ปัจจัยบวกของภาคการท่องเที่ยวที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือแม็กเน็ตทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ โปรเจ็คยักษ์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง ไอคอนสยาม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ จะเป็นจิ๊กซอร์สำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่มาช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย และดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี

thumbnail 4 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บรรยากาศแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา

แหล่งท่องเที่ยวหลากหลายจุดขายหลัก

จุดแข็งของการท่องเที่ยวของประเทศไทย คือความหลายหลาย ซึ่งวันนี้เรามีทั้งความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีให้เลือกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำตก แม่น้ำ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตความเป็นไทย ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวแบบสมัยใหม่ ที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ มากมาย ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งที่น่าสนับสนุนให้เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ช่วยเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว และยังเป็นการช่วยลดความบอบช้ำของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้อีกแรงหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความหลากหลาย ในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก รวมทั้งความหลากหลายในเรื่องของการเดินทาง ที่วันนี้ถือว่ามีความสะดวกสบายมากขึ้น

โดยกรุงเทพมหานครคว้าแชมป์อันดับหนึ่ง เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก จากการสำรวจเมืองที่เป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกโดยมาสเตอร์การ์ด เอาชนะมหานคร ชื่อดังของโลกอย่างลอนดอน ปารีส ดูไบ สิงคโปร์ นิวยอร์ก และโตเกียว ได้ถึง 2 ปีซ้อน คือปี 2559 และ 2560 พื้นที่ที่เป็นหัวใจ และถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพมหานคร ในเชิงของการท่องเที่ยวที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก คือ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว

เนื่องจากความสวยงามของทัศนียภาพและความหลากหลาย ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, มิวเซียมสยาม และอีกมากมาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบสมัยใหม่ ที่เกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่เปิดมาแล้วก่อนหน้านี้แล้ว เช่น เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ท่ามหาราช, ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค และโครงการยักษ์ ที่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางชื่อดังระดับโลก ที่กำลังจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ อย่างไอคอนสยาม

 

thumbnail 3 ไอคอนสยาม
โครงการก่อสร้างไอคอนสยาม

ไอคอนสยามแม่เหล็กใหม่ด้านท่องเที่ยว

ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวกำลังจับตามองการมาของไอคอนสยาม เพราะเชื่อว่าไอคอนสยาม จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มการท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยเติมเต็มภูมิทัศน์ที่สวยงามของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืน

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นปัจจัยบวกของภาคการท่องเที่ยวประเทศไทยคือ การพัฒนาในเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย และความหลากหลาย ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดจนเรื่องอาหารการกิน ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดใจที่สำคัญ และเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ช่วยกันเพิ่มเติมเส่นห์ให้กับการท่องเที่ยวประเทศไทย

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนให้ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืน และทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าหากสถานการณ์ต่างๆ ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีเหมือนในปัจจุบัน คาดว่าน่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2561 ได้เป็นจำนวนรวมถึง 39 ล้านคน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 37 ล้านคน

Avatar photo