Business

‘พปชร.’ เปิดเวทีเสวนา ไทยรับมือ ‘ฟรีวีซ่า’ ดึงจีนเที่ยวเพิ่ม ดัน GDP พุ่ง

พรรคพลังประชารัฐ จัดกิจกรรมเวทีวิชาการ ไทยรับมือ ฟรีวีซ่า อย่างไรให้ได้ประโยชน์ถึงมือประชาชน รุกใช้ดิจิทัลหนุน-เข้มปลอดภัย รับดีเดย์ 1 มีนาคม ดึงนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยเพิ่ม 

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดกิจกรรมเวทีวิชาการในหัวข้อ ไทยจะรับมือ ฟรีวีซ่า  อย่างไร ให้ได้ประโยชน์ถึงมือประชาชน ? โดย นายอัครแสนคีรี โล่วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ชัยภูมิ เขต 7 นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 และ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และอดีตโฆษกกองบังคับตำรวจนครบาล ดำเนินรายการโดย ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.

รับมือ ฟรีวีซ่า

การจัดเวทีวิชาการครั้งนี้ เพื่อนำเสนอมุมมองที่ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการใช้มาตรการฟรีวีซ่า และการรับมือ ฟรีวีซ่า ในการกระตุ้นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ที่จะส่งผลต่อการเพิ่มโอกาสด้านการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย-จีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมากยิ่งขึ้น

นายอัครแสนคีรี โล่วีระ สส. ชัยภูมิ เขต 7 กล่าวว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีการติดต่อค้าขายและมีสัมพันธไมตรีทางการทูตกันมาอย่างยาวนาน เกิดการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศเพื่อร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เติบโตผ่านความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ฯลฯ

โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้ไทยประกาศให้ ฟรีวีซ่าชั่วคราว แก่นักท่องเที่ยวจีนช่วงปลายเดือนกันยายน 2566 สิ้นสุดลงในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ต่อมารัฐบาลไทยและจีนได้ลงนามในข้อตกลงยกเว้นข้อกำหนดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวของกันและกันแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถเที่ยวได้นานถึง 30 วัน

ดังนั้น นโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเพียง 1 ชั่วโมงหลังมีรายงานข่าวฟรีวีซ่าออกไป ยอดการค้นหาคําว่า ประเทศไทย บนแพลตฟอร์มของ ซีทริป กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านการเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นมากกว่า 90%

92819 0

ล่าสุดข้อมูล ณ 5 กุมภาพันธ์ 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งสิ้น 3,513,155 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 170,411 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสูงสุด 617,578 คน รองลงมา มาเลเซีย 377,383 คน และ รัสเซีย 249,377 คน

คาดว่าก่อนเทศกาลตรุษจีนจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม โดยมีจำนวนเที่ยวบินขาออกที่เพิ่มขึ้นของจีน การยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน การขยายเวลาพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

รัฐบาลตั้งเป้าภายในปี 2567 จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทะลุ 30 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจีนทะลุ 5 ล้านคนซึ่งจะการท่องเที่ยวจะช่วยดันให้ GDP ปี 2567 เติบโตขึ้นได้

อย่างไรก็ตามแม้ว่า ฟรีวีซ่า สําหรับนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นยาแรงในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยแล้วแต่ก็อาจยังมี ข้อควรระวัง ที่รัฐบาลควรรับไว้พิจารณาโดยเมื่อไม่ต้องใช้วีซ่าอาจทำให้การคัดกรองคนที่เข้มงวด ผ่านวีซ่านั้นลดลง

92908 0

ทั้งนี้ วีซ่าเข้าไทยจะแบ่งประเภทนักท่องเที่ยวตามวัตถุประสงค์ เป็นวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าทํางาน วีซ่านักเรียน วีซ่าธุรกิจ วีซ่าคู่สมรส ฯลฯ โดยมีการกําหนดระยะเวลา และขอบเขตกิจกรรมที่สามารถทําได้สําหรับวีซ่าแต่ละประเภท อย่างในบางประเทศ การถือเพียงวีซ่านักเรียน สามารถเรียนหนังสือได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถทํางานในระหว่างเรียนได้

สำหรับปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยในปีที่ผ่านมาถือว่าเกินเป้าเล็กน้อย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ราว 4 ล้านคน โดยมีชาวจีนที่เดินทางมาไทยอยู่ที่ 3.5 ล้านคน มากสุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางมาไทยกว่า 4.5 ล้านคน

แต่ช่วงหลังเกิดเหตุกราดยิงใจกลางกรุงเทพฯ และมีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 ถือว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยช่วงก่อนโควิดในปี 2562 ซึ่งเคยพุ่งสูงเกือบ 11 ล้านคน

ขณะที่ในปี 2565 มีคนจีนเดินทางมาไทยเพียงราว 2.7 แสนคน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย ปี 2565 รวมมูลค่า Tourism GDP ที่จำนวน 982,585 ล้านบาท คิดเป็น 5.66% ของ GDP สูงกว่าปี 2563 (ปีก่อนเริ่มโควิด)

92912 0

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 กล่าวว่า ปี 2566 ไทยติดอันดับ 1 ใน 10 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และกรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 4 รองจาก ลอนดอน ปารีส และ นิวยอร์ค และจากฟรีวีซ่าทำให้ล่าสุดนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเที่ยวไทยเป็นอันดับ 1

แนะรัฐบาล-ผู้ประกอบการรับตัวรับมือ ฟรีวีซ่า 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลและผู้ประกอบการการท่องเที่ยวไทยควรจะปรับตัวเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวจีน ในการท่องเที่ยวที่ใช้เทคโนโลยีในภูมิทัศน์ การเดินทางที่เป็นนวัตกรรมของจีน บริการไร้สัมผัส และการชำระเงินดิจิทัล กลายเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของจีน

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น การเช็คอิน การรักษาความปลอดภัย การรับประทานอาหาร และ การช้อปปิ้ง โดยมีการโต้ตอบทางกายภาพน้อยที่สุด รหัส QR ได้ทำการปฏิวัติวิธีการชำระเงินการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟน และลดความจำเป็นในการใช้สกุลเงินหรือบัตร สอดคล้องกับการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสด ของประเทศ

ด้านเทรนด์การท่องเที่ยวจีนปี 2566 พบว่า 4 อันดับแรก ได้แก่ 1. ให้ความสนใจด้านสินค้าและบริการที่มีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร 2. ให้ความสนใจด้านความสบายและการผ่อนคลาย 3. เรื่องความท้าทายและการค้นพบสิ่งใหม่ 4. ประสบการณ์ท้องถิ่นเชิงลึก

92910 0

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มมีความเชียวชาญด้านเทคโนโลยีมากขึ้น โดยมองหาประสบการณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ทัวร์เสมือนจริงการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมรดก และสุขภาพโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ WeChat มีความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งไทยจะต้องปรับให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนให้มากขึ้น

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และอดีตโฆษกกองบังคับตำรวจนครบาล กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยลดน้อยลงในช่วงที่ผ่านมาอาจมาจากสภาพเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว จำนวนไฟลต์บินราคาประหยัดในยุคหลังโควิดที่ลดน้อยลง ประกอบกับเหตุผลด้านความปลอดภัย

จึงขอเสนอแนะให้รัฐบาลเพิ่มมาตราการในการรักษาความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างของประเทศ ทั้งที่โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งอุบัติเหตุในการเดินทางสัญจร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทย

ดังนั้น ไทยต้องยกระดับมาตรความปลอดภัยภายในศูนย์การค้าและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศ ตั้งกล้องวรจรปิด CCTV ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ และตรวจเช็กระบบให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อติดและตรวจสอบการเข้าออกของบุคคลและยานพาหนะอย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกัน ยังรวมทั้งเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยการเพิ่มการฝึกอบรมในการระงับเหตุร้ายทุกรูปแบบอยู่เป็นประจำ เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน และสามารถเข้าช่วยเหลือลูกค้าและบุคลากรได้ทันเหตุการณ์ ติดตั้งแอปพลิเคชันที่รองรับได้หลายภาษาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจเวลา และระบบข้อความเตือนภัยเร่งด่วนไปยังโทรศัพท์มือถือเวลาเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo