11 เดือน ใช้สิทธิ FTA ส่งออก 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์ อาเซียนยืนหนึ่ง

โดย WANPEN PUTTANONT 7 กุมภาพันธ์ 2567

กรมการค้าต่างประเทศ เผยตัวเลขการใช้สิทธิ FTA ช่วง 11 เดือน ปี 2566 มูลค่ารวมกว่า 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ตลาดอาเซียนนำโด่ง ใช้สิทธิ์มากที่สุด ตามด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย และอาเซียน-อินเดีย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในช่วง 11 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 75,842.65 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 82.66% ของการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA

สำหรับ FTA ที่ไทยใช้สิทธิส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่ง ยังคงเป็นความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มีมูลค่า 27,584.19 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 75.85% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ

ในจำนวนนี้ เป็นการใช้สิทธิส่งออกไปเวียดนามสูงสุด มูลค่า 6,795.17 ล้านดอลลาร์ รองลงมา คือ อินโดนีเซีย มูลค่า 6,726.93 ล้านดอลลาร์ มาเลเซีย มูลค่า 6,341.61 ล้านดอลลาร์ ฟิลิปปินส์ มูลค่า 4,986.95 ล้านดอลลาร์ และกัมพูชา มูลค่า 926.38 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ทั้งนี้ สินค้าที่มูลค่าการใช้สิทธิสูงที่สุด 5 อันดับแรก ภายใต้ความตกลง AFTA ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน, น้ำตาลที่ได้จากอ้อย, น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส, รถยนต์สำหรับขนส่งบุคคล ความจุกระบอกสูบเกิน 1,500-2,500 ลบ.ซม. และเครื่องจักรอัตโนมัติ

ส่วนความตกลง FTA ฉบับอื่นของไทย ที่มีการใช้สิทธิประโยชน์สูงรองลงมา หรืออันดับ 2 ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ 93.81% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ

ด้านสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์สูงที่สุด 5 อันดับแรกภายใต้ความตกลง ACFTA ได้แก่ ทุเรียนสด, ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ, มันสำปะหลัง, สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง และโพลิเมอร์ของเอทิลีน

ขณะที่อันดับ 3 เป็นความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 6,344.09 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 77.66% โดยสินค้าสำคัญที่มูลค่าการใช้สิทธิสูงที่สุด ยังคงเป็นเนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง

ตามด้วยอันดับ 4 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 5,802.56 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 61.76% โดยสินค้าสำคัญที่มูลค่าการใช้สิทธิสูงที่สุด คือ รถยนต์และยานยนต์ที่มีเครื่องดีเซลหรือกึ่งดีเซล

ปิดท้ายด้วยอันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 4,987.16 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 69.13% โดยสินค้าที่ใช้สิทธิสูงสุด คือ ลวดทองแดง

นอกจากนี้ ยังมีความตกลง FTA ฉบับอื่น ๆ ของไทยที่มีการใช้สิทธิด้วย และแม้จะไม่ได้อยู่ในระดับสูง แต่การใช้สิทธิภายใต้ความตกลง FTA ดังกล่าว ก็มีส่วนช่วยในการลดต้นทุนและสร้างแต้มต่อให้แก่ผู้ส่งออกของไทยได้

ตัวอย่างเช่น ความตกลงอาเซียน-เกาหลี (AKFTA) มูลค่า 3,303.73 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 66.50% และความตกลงไทย-ชิลี (TCFTA) มูลค่า 345.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 93.78% เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2567 กรมมีแผนจัดการสัมมนาภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เรื่อง ยกระดับการค้าสู่สากลด้วยสิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA จำนวน 5 ครั้ง ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และนครพนม

พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดเวิร์กชอปให้ผู้ประกอบการได้ทดลองใช้ระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าแบบไร้กระดาษ (ROVERs PLUS) เสมือนจริง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนกลยุทธ์การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA ตามสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถติดตามข้อมูลการจัดสัมมนาได้ผ่าน Facebook กรมการค้าต่างประเทศ DFT

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่