รัฐบาล หนุนใช้สิทธิประโยชน์ FTA เพิ่มโอกาส “การส่งออกไทย” 4 เดือนแรก มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
วันนี้ (วันที่ 12 กรกฎาคม 2566) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA)
ในช่วง 4 เดือนแรก (มกราคม – เมษายน) ของปี 2566 ซึ่งมีมูลค่ารวม 25,831.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ FTA สูงถึง 74.75% โดยเป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ได้เจรจายกระดับ FTA เดิม และจัดทำ FTA เพิ่มเติมกับประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพ เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการไทย ผลักดันมูลค่าการค้าและการลงทุนให้ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ไทยมีจำนวนถึง 14 คู่ภาคี FTA
4 เดือนแรก มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รายงานภาวะการส่งออกภายใต้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก FTA ในช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 2566 กับประเทศคู่ภาคีจำนวน 12 FTA มีมูลค่ารวม 25,831.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยการส่งออกภายใต้สิทธิ FTA ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 มีจำนวน 4 กรอบ ได้แก่
- อาเซียน-จีน (ASEAN – China Free Trade Area: ACFTA) เพิ่มขึ้น 6.98% กลุ่มสินค้าสำคัญคือ ทุเรียนสด
- อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (ASEAN – Australia – New Zealand Free Trade Area: AANZFTA) ที่มีการส่งออกไปออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 12.76% กลุ่มสินค้าสำคัญคือ รถยนต์และยานยนต์อื่น ๆ
- ไทย-เปรู (Thailand-Peru Closer Economic Partnership: TPCEP) เพิ่มขึ้น 2.16% กลุ่มสินค้าสำคัญคือ ด้ายผสมกับฝ้าย
- ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) เพิ่มขึ้น 106.72% กลุ่มสินค้าสำคัญคือ น้ำมันหล่อลื่น
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกของไทย 4 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 92,003.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง และหดตัวในอัตราที่น้อยกว่าประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาค
เดินหน้าเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรี เพิ่มโอกาสส่งออก
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เจรจายกระดับและจัดทำ FTA เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับภาคีจากหลายประเทศ เดินหน้าเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน พร้อมร่วมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – แคนาดา ความตกลงการค้าเสรีไทย – ศรีลังกา และความตกลงการค้าเสรีไทย – สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) หรือ EFTA คาดว่าจะมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมภายในปี 2567 รวมทั้ง ความตกลงการค้าเสรีไทย-EU ซึ่งคาดการณ์ตั้งเป้าให้เสร็จภายในปี 2568 เป็นต้น
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางแนวทางผลักดันเป็นนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการให้ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการไทย เพิ่มโอกาสด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงสนับสนุนตลาดใหม่สำหรับการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่มีศักยภาพ
สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการมานั้น ถือเป็นรากฐานสำคัญในการส่งเสริมการเจรจา FTA ให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ซึ่งหวังว่าในการทำงานของรัฐบาลต่อไปจะคง หรือเพิ่มตัวเลขภาคี FTA ได้อย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กสิกรไทย ประเมินเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 66 หลังเจอโจทย์ส่งออก ภัยแล้ง หนี้สูง
- แก้ปัญหาทุเรียนอ่อน ‘สวมสิทธิ GAP-GMP’ ส่งออก กระทรวงเกษตรฯ ย้ำ ถอนใบรับรอง เอาผิดทั้งแพ่งและอาญา
- ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม 3 เดือน ‘ส่งออกทุเรียนไปจีน’ 4.5 แสนตัน โกยเงินกว่า 1 แสนล้านบาท