Business

เผย 3 เทรนด์สำคัญ ขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์ เตรียมพร้อมรับซัพพลายเชนแห่งอนาคต

เฟดเอ็กซ์ เผย 3 เทรนด์สำคัญ ขับเคลื่อนเทคโนโลยีผู้ให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ เพื่อเตรียมความพร้อมซัพพลายเชนแห่งอนาคต ผสานรวมโลกออฟไลน์และดิจิทัลไว้ด้วยกัน

Generative AI กำลังได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลก โดยปัญญาประดิษฐ์ศักยภาพสูงนี้ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดแชทบอทอันชาญฉลาดและรังสรรค์ข้อความได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่อีเมลไปจนถึงบทความ

ธุรกิจโลจิสติกส์

แต่ในบริบทของการเปลี่ยนโฉมซัพพลายเชน ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินงานแบบแอนะล็อกสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพ และแก้ไขปัญหาการขาดการเชื่อมโยงที่มักเกิดขึ้นระหว่างเครือข่ายดิจิทัลและระบบการทำงานแบบออฟไลน์

นางสาวคาวอล พรีท ประธาน บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า ในอดีตซัพพลายเชนถูกขับเคลื่อนด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพอย่าง เครื่องบิน รถไฟ รถบรรทุก และการขนส่งทางทะเล ที่เป็นส่วนสำคัญของการค้าทั่วโลกควบคู่ไปกับโครงสร้างพื้นฐานที่ แข็งแกร่ง อย่าง เมืองท่า ศูนย์กลางภาคพื้นดิน และ ท่าเรือ

อย่างไรก็ตาม วิธีการจัดส่ง ขนส่ง และส่งมอบพัสดุทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ รูปแบบการทำงานในซัพพลายเชนการขนส่งจึงเปลี่ยนไป โดยการจัดส่งแต่ละขั้นตอนมีการดำเนินงานผ่านระบบดิจิทัล ไม่เพียงแต่ความพร้อมในการใช้งานและคุณภาพของข้อมูลภายในซัพพลายเชนทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้โดยให้ระบบเรียนรู้ผ่าน Machine Learning และระบบปัญญาประดิษฐ์

สำหรับหัวใจสำคัญของการนำเอา AI มาใช้งานคือ ข้อมูล ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ให้ระบบมีความซับซ้อนน้อยลง และช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการจัดการความเสี่ยง รวมถึงผลักดันการเติบโต ซึ่งจากงานวิจัยของ Gartner แสดงให้เห็นว่าอุปสรรคสําคัญที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงของซัพพลายเชนในช่วงเริ่มต้น คือ ข้อมูลที่มีคุณภาพ ฉะนั้นจึงจําเป็นอย่างยิ่งที่ทุกธุรกิจจะต้องมองหาข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในยุคปัจจุบัน

คาวอล พรีท
คาวอล พรีท

ขณะที่ เฟดเอ็กซ์ ได้เริ่มใช้ประโยชน์จากข้อมูลมาเป็นเวลาหลายปี ในการพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกในการดำเนินธุรกิจของเรา ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถติดตามทุก ๆ การจัดส่ง และทำให้การส่งมอบมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงช่วยยกระดับประสบการณ์ในการส่งมอบพัสดุสู่มือของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังผลักดันให้เกิดโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับซัพพลายเชนซึ่งสามารถเห็นผลลัพท์ในเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม

เทคโนโลยีเปลี่ยนโฉมซัพพลายเชน  

การกำหนดข้อมูลตำแหน่งอัจฉริยะ (Location Intelligence) หรือ การประยุกต์ใช้ AI ในการวิเคราะห์แผนที่ เข้ามาเปลี่ยนวิถีการทำงานของธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจขนส่ง และอีกหลากหลายธุรกิจในปัจจุบันที่ให้บริการแบบผสมผสานระหว่างการให้บริการแบบออฟไลน์และออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีการทำงานหรือให้บริการผ่านระบบดิจิทัล กุญแจที่มาปลดล็อกและสร้างคุณค่าให้ธุรกิจได้อย่างมหาศาลในยุคนี้ คือ ความสามารถในการจัดทำแผนที่แบบออนไลน์ด้วยการแทนที่ข้อมูลที่ไม่ซับซ้อน รวมถึงจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลแผนที่ที่มีหลายชั้น ให้สามารถแสดงผลออกมาเป็นภาพ ช่วยในการตัดสินใจ อีกทั้งยังเอื้อให้สามารถกำหนดเส้นทางการจัดส่งสินค้าในแต่ละครั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ หัวใจสำคัญคือการบูรณาการข้อมูลตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางของระบบห่วงโซ่อุปทานบนเครือข่ายดิจิทัลและแบบออฟไลน์ นอกจากนี้แล้วการบูรณาการข้อมูลลูกค้าหรือข้อมูลภายในของบริษัทเข้ากับเครือข่ายโลจิสติกส์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

FedEx Byline Data and Digitization 2

มิติใหม่ของการติดตามการจัดส่ง ที่ไม่ใช่เพียงแค่การระบุตำแหน่งสถานที่ หรือ ข้อมูลเชิงพื้นที่ขั้นต้น ในทางกลับกันด้วย ความอัจฉริยะ นี้ จะสามารถสํารวจและวิเคราะห์ข้อมูลในเลเยอร์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ตั้งแต่ข้อมูลขนาดใหญ่และไปจนถึงการเข้าถึงระบบคลาวด์ได้ทุกที่และทุกเวลา อีกทั้งสามารถจัดการรายละเอียดสำหรับการจัดส่งที่เหมาะสมยิ่งขึ้น

การรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายช่องทางเหล่านี้ จะสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอนาคต อย่างเช่น การเกิดขึ้นของหอบังคับการระบบดิจิทัล ที่สามารถมองเห็นข้อมูลและรายละเอียดของทั้งห่วงโซ่อุปทานได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ

เฟดเอ็กซ์ ได้ใช้งานเครื่องมืออันชาญฉลาดที่ชื่อว่า Thea ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการจัดส่ง ให้สามารถทราบได้ว่าเส้นทางไหนที่ใช้เวลาที่สั้นที่สุดในการเดินทาง และหากเกิดปัญหาในระหว่างการจัดส่งก็จะสามารถจัดการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้สามารถส่งของได้ทันเวลา

เครื่องมืออีกหนึ่งประเภทที่นำมาใช้งาน คือ กรอบเวลาในการจัดส่งโดยประมาณ (Estimated Time Delivery Window: ETDW) ซึ่งมี Machine Learning ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมขึ้น เพื่อสร้างการติดตามการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของการประมาณการเวลาในการจัดส่งและการแจ้งอัปเดตเมื่อการจัดส่งจะถึงที่หมายก่อนกําหนด หรือ กรณีเกิดความล่าช้า

FedEx Byline Data and Digitization 1

ยุคทองของโลจิสติกส์ที่ ยืดหยุ่น ยิ่งขึ้น ความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการจัดตารางเวลา กำลังการขนส่ง รวมถึงการวางแผนเส้นทางสำหรับการจัดส่งให้เหมาะสมที่สุดในตลาดที่มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ทางธุรกิจโลจิสติกส์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

อีกทั้งความง่ายในการขยายหรือลดขนาดของซัพพลานเชนทำให้ธุรกิจสามารถจัดการการจัดส่ง การผลิต และการขนส่งให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้ ทำให้วิถีในการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าจะเกิดการทำงานที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการวางแผนกลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ส่องการเปลี่ยนแปลงในซัพพลายเชนแห่งอนาคต

ข้อมูล จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้มีความสามารถในการปรับตัวได้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งมากขึ้น รวมทั้งความสามารถในการตัดสินใจและวางแผนที่แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับซัพพลายเชน แต่ยังรวมถึงทั้งระบบของธุรกิจ เพื่อให้เกิดการเติบโตและความราบรื่นในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ เราจะได้เห็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การทำงานของ AI ในเชิงลึก โดยจะมีเครื่องมือที่ทำงานด้วย AI เช่น แชทบอท ที่เข้ามาเป็นตัวเบิกทางในการเข้ามามีบทบาทในการทำงานของฝ่ายสนับสนุนลูกค้า

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ ความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูลและการใช้ประโยชน์จาก AI จะมีความสําคัญมากยิ่งขึ้นในการปรับปรุงการบริการลูกค้า รวมถึงพัฒนาความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่อยู่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo