Business

‘พาณิชย์’ ยกร่างหลักเกณฑ์หนังสือรับรองสินค้ากลุ่มนม ภายใต้ WTO ปี 66-68

กรมการค้าต่างประเทศ ยกร่างหลักเกณฑ์หนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตา ตามความตกลงการเกษตรภายใต้ WTO สินค้ากลุ่มนม ปี 2566-2568 

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้จัดทำ (ร่าง) กฎที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหลักเกณฑ์ การออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตาตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับสินค้ากลุ่มนม ปี 2566 ถึงปี 2568 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 จำนวน 2 ฉบับ

WTO

ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ที่ได้มีการเพิ่มปริมาณการนำเข้านมและครีม และนมผงขาดมันเนย เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนมในประเทศมีวัตถุดิบเพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมภายในประเทศ และได้จัดทำประชาพิจารณ์เปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียระหว่างวันที่ 25 กันยายน-9 ตุลาคม 2566

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ได้มีมติ เห็นชอบเกี่ยวกับการเปิดตลาดนำเข้าสินค้านมตามกรอบความตกลงของ องค์การการค้าโลก สำหรับปี 2566 โดยเพิ่มปริมาณการนำเข้าในโควตาที่จะจัดสรรสำหรับปี 2566 ดังนี้

1. นมและครีม จากเดิม 2,372.74 ตัน เป็น 3,072.92 ตัน เพิ่ม 700.18 ตัน

2. นมผงขาดมันเนย จากเดิม 5.5 หมื่นตัน เป็น 65,031.55 ตัน เพิ่มกว่า 1 หมื่นตัน

รณรงค์ พูลพิพัฒน์
รณรงค์ พูลพิพัฒน์

ปัจจุบันองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการโคนมฯ อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ

จากนั้น หาก ครม. มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการโคนมฯ ดังกล่าว กรมจะดำเนินการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาลงนาม (ร่าง) ระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตาตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก สำหรับสินค้านมและครีม เครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่ง และนมผงขาดมันเนย ปี 2566 ถึงปี 2568 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 จำนวน 2 ฉบับ

หลังจากระเบียบกระทรวงพาณิชย์มีผลใช้บังคับ กรมจะดำเนินการออกประกาศกรม เพื่อประกาศผลการจัดสรรปริมาณการนำเข้าในโควตาสินค้านมและครีม และนมผงขาดมันเนย กรอบความตกลง WTO สำหรับปี 2566 ครั้งที่ 4 เพื่อให้ผู้ได้รับจัดสรรสามารถยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองต่อกรม และนำไปแสดงต่อกรมศุลกากรเพื่อประกอบการนำเข้าได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ต่อไป

สำหรับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมทั้งผู้สนใจ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) กฎดังกล่าว ผ่านระบบกลางของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (www.law.go.th) และเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารสินค้าข้อตกลงและมาตรการการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4734

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo