Business

‘ธุรกิจโรงแรม-ที่พัก’ บูม 7 เดือนตั้งใหม่พุ่ง 51% รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัวก้าวกระโดด

ธุรกิจโรงแรม-ที่พัก รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น บูม 7 เดือนยอดจัดตั้งใหม่ 546 ราย พุ่ง 51% อีกทั้งกฎหมายเอื้อ เปิดโรงแรมง่ายขึ้น

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่มีศักยภาพ หลังจากพ้นสถานการณ์ของโควิด-19 พบว่า ธุรกิจโรงแรมและที่พัก มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างเด่นชัด อัตราการเติบโตของธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

shutterstock 1955892082

ทั้งนี้เห็นได้จากในช่วง 7 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) มีนิติบุคคลตั้งใหม่จำนวน 546 ราย เพิ่มขึ้น 51%

การเติบโตดังกล่าว มีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทย และกฎหมายเอื้ออำนวยให้ธุรกิจสามารถนำอาคาร ห้องแถว ตึกแถว หรือโฮมสเตย์มาใช้ประกอบกิจการโรงแรมได้ ทำให้เกิดนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ให้บริการโรงแรมและที่พักมีจำนวนมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ราคาที่พักมีความหลากหลาย และยังเกิดรูปแบบใหม่ในการให้บริการที่เป็นเอกลักษณ์ของที่พักในแต่ละท้องถิ่น ได้ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการมากขึ้น

ขณะเดียวกัน โรงแรมและที่พัก ยังเป็นธุรกิจแห่งโอกาสของประเทศไทย จากการที่ธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดด ส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจควรปรับตัวในการพัฒนารูปแบบการให้บริการที่มุ่งเน้นมาตรฐานตามหลักสากล การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการนำเสนอธุรกิจที่อยู่ในท้องถิ่นให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือการจองที่พักที่สะดวกสบายง่ายขึ้น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อไป

ทศพล ทังสุบุตร
ทศพล ทังสุบุตร

สำหรับโรงแรมและที่พักในประเทศไทย ที่จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคลมีจำนวน 12,826 ราย คิดเป็น 1.45% ของธุรกิจทั้งหมด มีมูลค่าทุน 608,777 ล้านบาท คิดเป็น 2.86% ของธุรกิจทั้งหมด หรือ 21.47 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจรูปแบบบริษัทจำกัด 11,359 รายคิดเป็น 88.56% มูลค่าทุน 574,720 ล้านบาท

ทั้งนี้ แบ่งเป็นเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) มากถึง 12,190 ราย คิดเป็น 95.04% นอกนั้นเป็นธุรกิจขนาดกลาง (M) จำนวน 514 ราย คิดเป็น 4.01% และธุรกิจขนาดใหญ่ (L) จำนวน 122 ราย คิดเป็น 0.95%

เมื่อวิเคราะห์ลึกไปถึงข้อมูลงบการเงิน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ระบุได้ว่าธุรกิจโรงแรมและที่พัก สามารถปรับตัวเดินต่อได้ เพราะรายได้รวมในปีงบการเงิน 2565 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 103,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107%

ขณะที่ผลกำไรขาดทุน พบว่า ยังมีการขาดทุนจำนวน 24,162 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยปกติที่มีผลจากการเผชิญวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา แต่ประเด็นสำคัญ คือ การขาดทุนที่ลดลงกว่า 60.47% จากปีก่อนหน้า เป็นสัญญาณที่ดีบ่งบอกถึงการเติบโตของธุรกิจ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo