Business

ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์ ‘MOSHI’ ครึ่งแรกกำไรโต 92%

ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์ “MOSHI” ครึ่งแรกกำไรโต 92% ครึ่งหลังยังดีต่อเนื่องด้วย 6 กลยุทธ์

บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ธุรกิจร้านค้าปลีกและร้านค้าส่ง สินค้าไลฟ์สไตล์ รายใหญ่ของไทย ภายใต้แบรนด์ “โมชิ โมชิ”  ถือเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจมาก เพราะธุรกิจแบบนี้มีให้เห็นเกลื่อนกลาดในกลุ่ม SMEs แต่ MOSH เป็นเจ้าแรกที่สามารถเติบโต จนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แถมยังเป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่มีความโดดเด่นอย่างมากของปี 2565

โมเดลธุรกิจของ MOSHI นั้นค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ซ้ำซ้อน นั่นคือการจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในราคาย่อมเยา โดยสินค้าเกือบทั้งหมดภายในร้านจะเป็นแบรนด์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเอง (House Brand) ได้แก่ เครื่องใช้ในบ้าน, กระเป๋า, เครื่องเขียน, ตุ๊กตา, ของใช้แฟชั่น, อุปกรณ์เสริมความงาม, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องสำอาง, อุปกรณ์ไอที, ของเล่น, อาหารและเครื่องดื่ม, พวงกุญแจ เป็นต้น

MOSHI ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์

เนื่องจากจุดเริ่มต้นของ MOSHI นั้นมาจากการทำธุรกิจขายส่งสินค้าในตลาดสำเพ็งมาก่อน จึงมีประสบการณ์กว่า 40 ปี ในการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ได้เปรียบทางด้านต้นทุน และสามารถนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม

MOSHI

ปัจจุบันบริษัทขยายสาขาร้านค้าปลีกแบรนด์ “โมชิ โมชิ” ไปแล้วกว่า 110 สาขา และมีร้านค้าส่ง The OK Station 4 สาขา รวมแล้วทั้งหมด 114 สาขา ครอบคลุม 45 จังหวัดทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีร้านป๊อปอัพ สโตร์ ซึ่งเป็นร้านค้าชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมทั้งการรุกเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้ง Shopee, Lazada และ TikTok

การขายสินค้าผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Shopee และ Lazada

ร้านป๊อปอัพ สโตร์ (Pop-up Store) ซึ่งเป็นร้านค้าที่จัดขึ้นชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

MOSHI
ภาพ:https://www.moshimoshi.co.th/th/company-info

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 595.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 82.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ภาพรวมงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 168.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยการเติบโตมาจาก 2 ปัจจัยหลัก

1. ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ และบริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น สินค้าที่พัฒนาร่วมกับศิลปินนักวาดการ์ตูนคนไทย และการเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ เช่น Pet accessory ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

2. การขยายสาขา ซึ่งได้เปิดสาขาใหม่ของโมชิโมชิ ในช่วงครึ่งปีแรกทั้งสิ้น 7 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station จำนวน 1 สาขา

Capture 15
ภาพ:https://www.moshimoshi.co.th/th/company-info

สัดส่วนรายได้ปัจจุบันของ MOSHI ประกอบด้วย รายได้จากธุรกิจค้าปลีก คิดเป็นสัดส่วน 82.7% รายได้ธุรกิจค้าส่ง คิดเป็นสัดส่วน 16.7% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 0.6%  จะเห็นว่ารายได้ของธุรกิจค้าส่งที่เพิ่มขึ้น นั้นมาจากยอดการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยมักเลือกซื้อของฝากกลับไปยังประเทศตนเอง โดยเฉพาะสาขาประตูน้ำ และ Platinum ประกอบกับการขยายพื้นที่สาขาสำเพ็งในปี 2565 และการเพิ่มสาขา The OK Station ในไตรมาส 2/2566

MOSHI
ภาพ:https://www.moshimoshi.co.th/th/company-info

ด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดีต่อเนื่อง ทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมาจากกลยุทธ์หลัก ดังนี้

1.  การเปิดสาขาใหม่อีก 13 สาขา

2. การเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ภายใต้ชื่อ Garlic เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบสินค้าแนว Chic&Cool ที่แตกต่างออกไปจากสไตล์สินค้าแบบเดิม

3. การออก Product Category ใหม่ๆ เช่น Pet Accessories

4.  การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเทศกาลวันหยุด

5.  การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตามเทรนด์ทันสมัยเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 4,000 SKUs ในช่วงที่เหลือของปี 2566

6.  การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โปรโมชันประจำเดือนเละตามเทศกาลต่างๆ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน