นายกฯ ห่วงใยครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง-หนี้นอกระบบ ปรับตัวไม่ทันสถานการณ์เศรษฐกิจ ดอกเบี้ย สั่งการเน้นดูแลแบบพุ่งเป้าเฉพาะจุด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ขณะนี้ข้อมูลเศรษฐกิจไทยหลายด้านจะปรับตัวดีขึ้น อาทิ การท่องเที่ยว การจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังคงมีความห่วงใยประชาชนในกลุ่มเปราะบาง
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่รายได้ฟื้นตัวช้า มีภาระหนี้สูง และต้องมีการดูความสามารถในการชำระหนี้ให้ดี เนื่องจากเวลานี้อยู่ในช่วงที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจให้มีความเหมาะสม
นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวนโยบายแก่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้เน้นการดูแลประเด็นหนี้สินครัวเรือนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบางเฉพาะกลุ่ม รวมถึงกลุ่มผู้เป็นหนี้ที่อยู่นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อให้ทางการเห็นข้อมูล และมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือถูกกระทำการที่ผิดกฎหมาย
“นายกรัฐมนตรีได้รับทราบตามรายงานของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ว่าในเรื่องของเสถียรภาพระบบการเงิน การชำระหนี้ในภาพรวมทั้งประเทศตอนนี้อยู่ในระดับที่ดี ไม่น่ากังวล ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการใหม่ หรือมาตรการที่ใช้ในวงกว้างเหมือนช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19
แต่ให้มีมาตรการพุ่งเป้าดูแลแบบเฉพาะกลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ที่อาจยังปรับตัวไม่ได้ รวมถึงกลุ่มหนี้นอกระบบ
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด19 กระทรวงการคลัง ธปท. ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ ผู้ประกอบการด้านการเงินแต่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้เป็นหนี้ในระบบ ผ่านมาตรการต่าง ๆ
ตัวอย่างเช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การผ่านปรนเกณฑ์การชำระหนี้ ครอบคลุมลูกหนี้ทุกประเภท ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี และลูกหนี้รายย่อย และมีการปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องสถานการณ์มาโดยต่อเนื่อง
ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/66 มีผู้ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐ แยกเป็นการช่วยเหลือผ่านธนารพาณิชย์และนอนแบงก์ 1.94 ล้านบัญชี ยอดภาระหนี้ 1.89 ล้านล้านบาท ผ่านธนาคารเฉพาะกิจ 3.32 ล้านบัญชี ยอดภาระหนี้ 1.48 ล้านล้านบาท รวมการได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้น 5.26 ล้านบัญชี วงเงินรวม 3.37 ล้านล้านบาท
ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้เป็นหนี้ นอกระบบธนาคารเฉพาะกิจ ก็ได้มีโครงการออกมาให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เปิดจุดให้คำปรึกษาเกี่ยวกับหนี้กลุ่มนี้แก่ครอบครัวเกษตรกรที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ล่าสุดได้มีโครงการ มีหนี้นอกบอก ธ.ก.ส. เพิ่มความสะดวกให้ผู้ต้องการใช้บริการ ให้ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.baac.or.th หรือ Line Official Account: BAAC Family
นับแต่มีโครงการช่วยเหลือครอบครัวเกษตรกร ที่เป็นหนี้นอกระบบ ธ.ก.ส. ได้ช่วยผู้อยู่นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบแล้ว 710,123 ราย เป็นเงิน 59,759.77 ล้านบาท ซึ่งผู้สนใจโครงการสามารถสอบถามที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศและ Call Center ธ.ก.ส. 02 555 0555
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกรัฐมนตรี’ แฮปปี้! ระบบการเงินของประเทศมีเสถียรภาพดี แบงก์พาณิชย์แกร่ง!
- ‘นายกรัฐมนตรี’ แฮปปี้! สัญญาณเงินเฟ้อไทยคลี่คลาย ต่ำที่สุดในอาเซียน
- ‘นายกรัฐมนตรี’ แจงยังไม่คุย สปน. ‘คดีไอทีวี’ ลั่นวันนี้ก็ยุ่งพอแล้ว!