Business

‘บิ๊กตู่’ ยินดีปี 65 สปสช. ดูแลคนไทยกว่า 47 ล้านคน สะท้อนการพัฒนา ‘หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ’ ที่ไม่หยุดนิ่ง

“บิ๊กตู่” ยินดีปี 65 สปสช. ดูแลคนไทยกว่า 47 ล้านคน พร้อมเพิ่มการบริการใหม่ๆ สะท้อนการพัฒนา “หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ที่ไม่หยุดนิ่ง

วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลรับทราบการรายงาน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2565” ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยในปีงบประมาณ 2565 ที่ผ่านมา จากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาล จำนวน 198,891.79 ล้านบาท (รวมเงินเดือนผู้ให้บริการ)

สามารถดำเนินการเพื่อดูแลประชาชนทั่วประเทศให้เข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น ทั้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์

สปสช.

ดูแลประชาชนกลุ่มบัตรทอง 47.46 ล้านคน

ปีงบประมาณ 2565 มีประชากรผู้มีสิทธิบัตรทองจำนวน 47.46 ล้านคน สร้างความครอบคลุมผู้มีสิทธิบัตรทอง เข้าถึงบริการ 99.40%

โดยในส่วนงบเหมาจ่ายรายหัว 3,329.22 บาทต่อประชากรสิทธิบัตรทอง สามารถดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการตามรายการต่าง ๆ เช่น ผู้ป่วยนอกรับบริการ 167.37 ล้านครั้ง (3.53 ครั้ง/คน/ปี) ผู้ป่วยในรับบริการ 6.20 ล้านครั้ง (0.13 ครั้ง/คน/ปี) ขณะที่มีผู้ป่วยเข้าถึงบริการกรณีเฉพาะ หัตถการค่าใช้จ่ายสูง ยาบัญชี จ.(2) และบริการที่จำเป็นต่อเนื่อง

โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมกับภาพรวมการดำเนินการต่าง ๆ ภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปี 2565 ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ประสิทธิภาพการบริหารจัดการต่าง ๆ ทำให้คนไทยผู้มีสิทธิบัตรทองได้รับบริการสุขภาพที่ดี มีคุณภาพและมาตรฐาน เป็นไปตามที่ สปสช. ตั้งเป้าหมายไว้

สปสช.

สะท้อนการพัฒนาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ไม่หยุดนิ่ง

ในปี 2565 ยังเป็นปีที่ได้เริ่มสิทธิประโยชน์และบริการใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเลือกวิธีฟอกไตแบบที่เหมาะสมได้ทุกคน สิทธิประโยชน์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ เพิ่มยาในรายการบัญชียา จ.(2) การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และการยกระดับสายด่วน สปสช. 1330 สู่ Contact Center เป็นต้น รวมถึงการยกระดับบัตรทองเพื่อเป็นหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทย

ซึ่งผลงานการดำเนินงานในปี 2565 ได้สะท้อนการพัฒนาหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งการจัดสิทธิประโยชน์ใหม่ต่อเนื่อง ขยายการบริการ รุกการบริหารจัดการ เพื่อดูแลประชาชนสิทธิบัตรทองให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่เน้นดูแลให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการอย่างเท่าเทีย มและมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ

สปสช.

ให้บริการและดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สปสช. ได้ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 บอร์ดเห็นชอบข้อเสนอการช่วยเหลือค่าบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) แก่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ไม่สมัครใจรับบริการล้างไตผ่านทางช่องท้อง (CAPD) เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทองสามารถตัดสินใจร่วมกับแพทย์เลือกวิธีฟอกไตที่เหมาะสมได้ทุกคน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เปิดให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจเลือกวิธีล้างไตกับแพทย์

ปี 2565 บัตรทองดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังฯ 62,478 คน จำแนกเป็นผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้อง 18,478 คน ล้างไตผ่านช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ 1,234 คน และผู้ป่วยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 40,086 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยฟอกตามนโยบายใหม่นี้ 17,000 คน นอกจากนี้มีผู้ป่วยผ่าตัดปลูกถ่ายไต 146 คน และผู้ป่วยรับยากดภูมิหลังปลูกถ่ายไต 2,534 คน

ขณะที่สิทธิประโยชน์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่-แผ่นรองซับ ดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงติดเตียง ผู้มีปัญหากลั้นขับถ่าย บอร์ด สปสช. มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เพื่อดูแลผู้ที่อยู่ในภาวะติดบ้าน ติดเตียง ที่มีค่าคะแนนระดับความสามารถในการดำเนินกิจวัตรประจำวัน ตามดัชนี ADL ระหว่าง 0-6 หรือตามแผนดูแลรายบุคคล (Care plan)

และผู้มีปัญหากลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ ตามผลการประเมินหรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ซึ่งสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 3 ชิ้น/คน/วัน หรือแผ่นรองซับการขับถ่ายไม่เกิน 3 ชิ้น/คน/วัน โดยดำเนินการผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) และกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo