Business

‘ลีสซิ่งกสิกรไทย’ คว้ารางวัลระดับโลก ‘Fastest Growing Leasing Finance Company 2022’

‘ลีสซิ่งกสิกรไทย’ คว้ารางวัล ‘Fastest Growing Leasing Finance Company 2022’ ตอกย้ำความสำเร็จผลการดำเนินงาน ทั้งด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่และผลกำไรสูงสุด เดินหน้าพัฒนาไม่หยุดเพื่อเสนอบริการสินเชื่อรถยนต์ ผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างครบวงจร ครองใจลูกค้า

ลีสซิ่งกสิกรไทย ไทยคว้ารางวัล Fastest Growing Leasing Finance Company 2022 จากเวทีระดับโลก International Finance Awards 2022 ซึ่งเป็นเวทีที่มอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติแก่องค์กรในระดับสากล จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

โดยเป็นรางวัลที่จัดอยู่ในประเภท Financial Awards  มอบให้กับบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อประเภทลีสซิ่ง ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด โดยคัดเลือกจากองค์กรทั่วโลก

ลีสซิ่งกสิกรไทย

คว้ารางวัล Fastest Growing Leasing Finance Company 2022

นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทคว้ารางวัล Fastest Growing Leasing Finance Company 2022 จากเวทีระดับโลก International Finance Awards 2022 ซึ่งความสำเร็จนี้สะท้อนความร่วมแรงร่วมใจกันทำงานของพนักงานภายในองค์กร และความร่วมมือระหว่างทีมงานของธนาคารกสิกรไทยและบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และส่งมอบการขายการบริการถึงลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ

รวมถึงการผนึกความร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ เพื่อออกแคมเปญและผลิตภัณฑ์ที่โดนใจอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลถึงการเติบโตทางธุรกิจ ทั้งด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่และกำไรสุทธิ

พัฒนาผลิตภัณฑ์ เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ กำไรเติบโต

สำหรับผลประกอบการของลีสซิ่งกสิกรไทย ในช่วง 2 ปี 2564 และ 2565 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถขยายฐานสินเชื่อหรือยอดคงค้างสินเชื่อ (Outstanding Loan) เพิ่มขึ้น 5.4% และ 13.4% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่ายอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อในระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 2564 และ 2565 ที่เติบโต 0.12% และ 0.35% ในช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ทุกประเภทในปี 2565 มียอดรวมกว่า 113,445 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อรวมกับการปรับปรุงกระบวนการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่าย และกระบวนการติดตามการชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไร New High 2,134 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 24.8%

และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของสินทรัพย์ (ROA) และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือ( ROE) ทั้งปี อยู่ที่  1.6% และ 17.9% ตามลำดับ

ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลให้ลีสซิ่งกสิกรไทยมีการเติบโตในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบทุกด้าน และสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่เพื่อสร้างรายได้ดอกเบี้ยรับสูงขึ้น เช่น ด้านสินเชื่อรถใหม่ และสินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์

ลีสซิ่งกสิกรไทย

ขยายความร่วมมือค่ายรถยนต์ไฟฟ้า

ลีสซิ่งกสิกรไทยได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตและนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นอีกหลายแบรนด์จากเดิม เช่น  BYD และ Neta รวมถึงการทำแคมเปญร่วมกับพันธมิตรเดิมอย่าง Audi, Mitsubishi, MG, Suzuki, Mazda, Subaru และHyundai

พร้อมเดินหน้าสอดรับนโยบาย Go Green Together สร้างสังคมสีเขียวของธนาคารกสิกรไทย โดยลีสซิ่งกสิกรไทยเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถอย่างเป็นทางการกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ มีเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 25% จากปัจจุบันที่ 16% ของผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ด้านสินเชื่อรถใช้แล้ว ลีสซิ่งกสิกรไทยตอบสนองพฤติกรรมการซื้อรถยนต์มือสองของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และมุ่งเน้นผสานความร่วมมือกับคู่ค้า ตอกย้ำด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์มือสองผ่านผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ออนไลน์

ประเมินผลการอนุมัติด้วย i-Scoring

ด้านสินเชื่อรถช่วยได้ ลีสซิ่งกสิกรไทยได้ออกผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ตอบสนองความลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงและหลากหลายมากขึ้น ได้แก่สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทไม่ต้องแสดงเอกสารรายได้ (Self-Declared) สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทผ่อนอยู่ก็กู้ได้ (Balance Transfer) และสินเชื่อรถช่วยได้ รถคันเดิม กู้เพิ่มได้  (Top-Up)

ลีสซิ่งกสิกรไทยยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและชูนวัตกรรมการขอสินเชื่อรถยนต์ผ่านช่องทางดิจิทัล ตอบโจทย์ความต้องการและรองรับพฤติกรรมลูกค้าทุกเซกเมนต์ ต่อยอดจุดแข็งของธนาคารกสิกรไทยที่มีเครือข่ายและฐานลูกค้า  K PLUS จำนวนมาก

โดยปีที่ผ่านมา ลีสซิ่งกสิกรไทยได้พัฒนาการประเมินผลการอนุมัติด้วย i-Scoring ซึ่งเป็น Integrated Credit Scoring ของธนาคารที่รวบรวมคะแนน ทั้งคะแนนด้านเครดิตบูโร (Application Score Bureau Score) และคะแนนพิเศษ กรณีที่ผู้ขอสินเชื่อเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย

และในปีนี้เราได้เปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อรถใหม่ด้วยตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Self-Apply) ที่ครบ จบ ง่าย และยังคงประมวลผลอนุมัติด้วยระบบ i-Scoring ด้วยเช่นกัน

“ด้วยนวัตกรรมดังกล่าว จึงช่วยทำให้การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย ทำได้ง่ายรวดเร็วและแม่นยำขึ้น  เพิ่มโอกาสในการอนุมัติแก่กลุ่มลูกค้าของธนาคารได้มากขึ้น” นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติม

ตลาดสินเชื่อรถยนต์เติบโต

สำหรับสภาวะของตลาดรถยนต์ไทยปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยและลีสซิ่งกสิกรไทยคาดว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2566 น่าจะขยายตัวระหว่าง 5-8% หรือที่ประมาณ 890,000-920,000 คัน โดยปัญหาการขาดแคลนชิปที่คลี่คลายลง การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และการแข่งขันด้านราคาที่จะเพิ่มสูงขึ้น ผลักดันให้ตลาดยังเติบโต

โดยประเภทรถที่คาดว่าจะขยายตัว จะเป็นกลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก โดยเฉพาะในรุ่นมีระบบขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ เช่น ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และ BEV เนื่องจากช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน รวมถึงรถกระบะและรถบรรทุก ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ตามการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐและเอกชน

สำหรับยอดขาย BEV ในประเทศปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องระหว่าง 160.1%-271.6% หรือประมาณการเป็นจำนวน 35,000 – 50,000 คัน ทำให้ส่วนแบ่งขยับขึ้นเป็นกว่า 4% ของยอดขายรถยนต์รวม โดยปัจจัยบวกมาจากการตอบรับของผู้ซื้อรถ การได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ

การเปิดตัวรถ BEV รุ่นใหม่ในหลากหลายเซกเมนต์และจากหลายค่ายมากขึ้นในประเทศ ส่งผลให้การแข่งขันของธุรกิจให้เช่าซื้อสินเชื่อรถใหม่ในปี 2566 คาดว่ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับทิศทางของสินเชื่อรถประเภทจำนำทะเบียน ที่คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตในเกณฑ์สูงที่ระดับ 25-30% เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความต้องการวงเงินสินเชื่อเงินสด ซึ่งสินเชื่อประเภทนี้เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในแง่ต้นทุนดอกเบี้ยและโอกาสการได้รับสินเชื่อ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo