ครม. เห็นชอบให้เอกชน ‘พัฒนาท่าเรือสงขลา’ พร้อมเคาะ 3 พันล้านขุดลอกร่องน้ำ รองรับขยายตัว ส่งออก-นำเข้า ภาคใต้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี ( 10 มกราคม 2566) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน สำหรับโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ในรูปแบบการร่วมลงทุนภาครัฐ-เอกชน (PPP) ภายใต้ พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556
และเห็นชอบวงเงินงบประมาณ 3,184.57 ล้านบาท ให้แก่กรมเจ้าท่า ในการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำสงขลาให้อยู่ที่ระดับ 9 เมตรตลอดระยะเวลาของโครงการ 25 ปี
จะเป็นการเพิ่มศักยภาพท่าเรือสงขลา ให้สามารถแข่งขันกับท่าเรือปีนัง มาเลเซีย ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และรองรับการขยายตัวของปริมาณสินค้า นำเข้าและส่งออกในภาคใต้
ให้เอกชนพัฒนาท่าเรือสงขลา
สำหรับแนวทางในการปรับปรุงท่าเรือสงขลา เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหน้าท่าและติดตั้งเครนหน้าท่าเรือ การปรับปรุงลานตู้สินค้าและเพิ่มเติม เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะสนับสนุนการขนถ่ายสินค้าด้วยเครนขนาดใหญ่ เป็นต้น
โดย บจก. เจ้าพระยาท่าเรือสากล ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุด ซึ่งสูงกว่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ ครม. เคยให้ความเห็นชอบในหลักการของโครงการฯ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2554 ทำให้รัฐได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิมกว่า 34.44%
ทั้งนี้ ฝ่ายเอกชนจะมีหน้าที่ เช่น ออกแบบ พัฒนา ปรับปรุง และบริหารท่าเรือสงขลา ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา งบลงทุนทั้งสิ้น จำนวน 2,387.90 ล้านบาท โดยสัญญามีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจนครบ กำหนดระยะเวลา 25 ปี หรือจนกว่าสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง โดยไม่สามารถขยายหรือต่ออายุของสัญญาฉบับนี้ได้ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างของโครงการ ฯ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายรัฐทันที เมื่อการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของโครงการแล้วเสร็จ
เพิ่มขีดความสามารถ รองรับการขยายตัวส่งออกภาคใต้
นายอนุชา กล่าวว่า โครงการฯ ยังส่งผลให้ท่าเรือสงขลาจะสามารถรองรับขนาดเรือที่เข้ามาใช้บริการท่าเรือน้ำลึกสงขลาได้มากขึ้น รวมทั้งรองรับจำนวนตู้คอนเทนเนอร์และน้ำหนักได้เพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายต้นทุนการขนย้ายสินค้าส่งออก เนื่องจากสามารถบรรทุกสินค้าส่งออกทางเรือไปยังประเทศปลายทางได้โดยตรง
ทั้งยังเป็นการสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางทะเล เพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือน้ำลึกบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ในการขนถ่ายสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์ไปยังประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เพิ่มธุรกิจการนำเข้า-การส่งออก ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและท้องถิ่นด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พาณิชย์ ชี้ สัญญาญบวก ‘ส่งออกไทย’ หลังจีนเปิดประเทศ
- ชัชชาติ สั่งตั้ง ‘ศูนย์บัญชาการโควิด’ เข้มประเมินสถานการณ์-จุดเสี่ยง เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว
- กรมควบคุมโรค ชี้ ‘สถานการณ์โควิด’ ดีขึ้น ยอดติดเชื้อลดลงเกินครึ่ง แนะนำรับวัคซีน 4 เข็ม