Business

ท่องเที่ยวหลังโควิดปี 2566 ปักหมุดรายได้ 2.8 ล้านล้าน ‘จีน’ ความหวังฟื้นเที่ยวไทย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังโควิด หวังฟื้นตัวปี 2566 ตั้งเป้ารายได้กลับมา 80% เทียบก่อนเกิดโควิด “จีน” ความหวังพลิกฟื้นเที่ยวไทย

ผ่านพ้นปี 2565 พร้อมกับความหวังในปี 2566 สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย หลังจากปิดปี 2565 ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 11.5 ล้านคน เมื่อรวมการเที่ยวในประเทศของคนไทย คาดทำรายได้เข้าประเทศถึง 1.5 ล้านล้านบาท

ท่องเที่ยวหลังโควิด

ขณะที่ในปี 2566 นอกจากการเปิดประเทศเพิ่มขึ้นของหลายประเทศ ยังมีข่าวดีช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2565 เมื่อ รัฐบาลจีน ประกาศยกเลิกมาตรการกักกันโรคโควิดนักเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศไทยและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา จีนเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนของไทย

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2566 กลับมาได้ 80% ของปี 2562 โดยจะมีรายได้ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาได้ 50% หรือประมาณ 20 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิดในปี 2562

ขณะที่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด สรุปภาพรวมปริมาณเที่ยวบิน ปี 2565 มีปริมาณเที่ยวบินรวม 520,367 เที่ยวบิน และคาดว่าในปี 2566 จะมีปริมาณเที่ยวบินรวม 858,387 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 2,352 เที่ยวบิน ต่อวัน เพิ่มขึ้น 65% จากปี 2565

shutterstock 1986689582

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เที่ยวบินมีปริมาณเพิ่มขึ้น ได้แก่ การเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลาง ส่วนกลุ่มประเทศอื่นจะเริ่มทยอยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ในปี 2566 สัดส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งนโยบายเปิดประเทศของจีน จะส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นด้วย

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ประเทศจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการกักกันโรคโควิดนักเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถออกไปท่องเที่ยวทั่วโลกได้มากขึ้น

โดยเฉพาะประเทศไทยที่เริ่มมีอากาศหนาวเย็น และเป็นเมืองที่ชาวจีนต้องการเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับ 1 ของโลก จึงคาดว่าหลังจากจีนยกเลิกมาตรการกักกันโควิด เชื่อว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเข้ามาเที่ยวในไทยเกินกว่า 5 ล้านคน

shutterstock 716068468

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2566 ททท.ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติ กรณีฐาน 18 ล้านคน และถ้ารัฐบาลจีนเปิดให้ชาวจีนเดินทางระหว่างประเทศได้ จะไปสู่เป้าหมายกรณีดีที่สุดที่ 25 ล้านคน

คาดว่าจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน 1.5 ล้านคนในปีหน้า จากนั้นปี 2567 เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาอย่างเต็มที่ ตลอดทั้งปีก็จะเกิด Great Resumption หรือการฟื้นฟูอย่างยิ่งใหญ่ ของธุรกิจท่องเที่ยวไทย

ด้าน Krungthai COMPASS ประเมินการท่องเที่ยวหลังโควิด จะทยอยฟื้นตัวในปี 2566 และฟื้นตัวชัดในปี 2567 โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าจะอยู่ที่ 21.4 และ 34.7 ล้านคน ตามลำดับ และมีมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่ที่ 1.6 และ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 58-87% เมื่อเทียบกับปี 2562

ทั้งนี้ มองว่ามีแรงหนุนสำคัญจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของไทย และความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่สะสมมานานกว่า 2-3 ปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาเดินทางได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติระยะใกล้ อาทิ มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์ ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ซึ่งยังกดดันให้ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี (2560-2562) ที่ผ่านมาถึง 17%

Holiday ๒๐๑๐๑๓ 0

ส่องปัจจัยลบท่องเที่ยวไทยหลังโควิด

แม้ว่าภาพรวมการท่องเที่ยว จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ค่อนข้างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาความไม่แน่นอน และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจัยต่อไปนี้

1. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่มีการกลายพันธุ์ และสร้างความกังวลเป็นระยะ

2. ภาวะเงินเฟ้อสูงที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ ฉุดรั้งบรรยากาศการท่องเที่ยว ต้นเหตุเกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและคาดเดาได้ยากว่าจะจบลงเมื่อไร

3. สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง (climate change) อาจส่งผลให้ฤดูกาลท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นเดิม

แนวทางการปรับตัวรองรับท่องเที่ยวหลังโควิด

1. การหาโอกาสเพิ่มรายได้ จับเทรนด์ใหม่ให้ทันและปรับตัวให้เร็ว เพราะการทำธุรกิจโดยอ้างอิงจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในอดีตอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าเดิม

shutterstock 2124096590

ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจึงต้องปรับตัว และเรียนรู้ให้เท่าทันความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่ม Staycation และ Workation ที่ต้องการทำงานในขณะท่องเที่ยวไปด้วย ต่อยอดมาจากกระแส work from anywhere รวมทั้งปรับตัวรับนักท่องเที่ยวระยะสั้น จากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย รวมถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

2. ความสามารถในการบริหารต้นทุน  เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนจำนวนแรงงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงใช้พนักงานที่มีทักษะการใช้เทคโนโลยีและ multi-tasking มากขึ้น การลดต้นทุนในการบริหารจัดการ  และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ

3. การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก (Resilience) ในระยะถัดไป ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ธุรกิจบางส่วนจึงเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ และยังไม่กลับมาให้บริการ สอดคล้องกับภาคแรงงานที่ส่วนใหญ่ยังไม่กล้ากลับเข้าสู่ภาคการท่องเที่ยว เพราะยังมีความไม่แน่นอนด้านรายได้อยู่มาก

ทั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตอาจเกิดการจำกัดของผู้ให้บริการในภาคท่องเที่ยวได้ แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาด และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ยุติลง จำนวนนักท่องเที่ยวอาจกลับเข้ามามากกว่าที่คาด

ดังนั้น ภาคท่องเที่ยวหลังโควิด ธุรกิจจึงต้องเตรียมแผนสำรองไว้ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจะได้ไม่พลาดโอกาสครั้งสำคัญ อาทิ เตรียมเงินทุนและแรงงาน ติดตามข่าวสารและสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมที่จะกลับมาเปิดหรือปรับเปลี่ยนการให้บริการได้อย่างทันท่วงที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo