โฮมโปร เดินหน้าเจาะตลาดคนรักบ้าน พัฒนาแอปพลิเคชั่นตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล เจาะขายออนไลน์ 24 ชั่วโมงรับมือเทคโนโลยี Disruption พร้อมปั้นจุดยืนศูนย์จำหน่ายสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม นำเสนอ 6 กลุ่มสินค้า “ECO Choice” คว้ารางวัล DJSI ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า ตลอดปี 2561 พนักงานทุกคนของโฮมโปร ได้ทำงานด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท อย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น บริหารการใช้สินทรัพย์ได้คุ้มค่า รวมถึงบริหารอัตรากำไร หรือ GP ได้สูงขึ้น ทำให้ภาพรวมของบริษัทมีกำไรเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
โดยเติบโตไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาล สร้างความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้บริษัทได้รับรางวัล “องค์กรที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยื่น” (Outstanding Sustainability Awards) และรางวัล “บริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน” DJSI (Dow Jones Sustainability Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
“สำหรับโฮมโปร การเริ่มปีใหม่ครั้งนี้ มีความท้าทายหลายอย่างให้บริษัทฯ เราคอยมองหาอะไรใหม่ๆ ให้พนักงาน และลูกค้าของเราอยู่เสมอ การเปลี่ยนแปลงแรกในปี 2562 คือเรื่อง ยูนิฟอร์มของพนักงานโฮมโปร ซึ่งจะช่วยให้พนักงานรู้สึกถึงการเริ่มต้นที่แปลกใหม่ สดใสกว่าเดิม และเป็นชุดที่ใช้กันในทุกระดับ ไม่มีการแบ่งแยกตำแหน่ง ปัจจัยเล็กๆ นี้จะบอกให้พนักงานทุกคนรับรู้ว่า องค์กรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ในปี 2562 นี้ โฮมโปรยังคงเดินหน้าไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเข้ามา ซึ่งปีนี้เราพร้อมโปรโมท Home Service App ที่มีการปรับเวอร์ชั่นใหม่ พร้อมรองรับการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยโฮมโปรยังมุ่งเน้นจุดยืนการเป็นผู้นำด้าน Home Solution and Living Experience ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้วยการเน้นย้ำเรื่องสินค้าใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญ ต่อการพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ ในการพัฒนารูปแบบนวัตกรรมของสินค้า และบริการ
ตลอดจนให้ความสำคัญ เรื่องความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่กระบวนการผลิต ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตลอดจนการส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตราฐาน และปลอดภัย
ปัจจุบันโฮมโปรมีสินค้าตกแต่งบ้าน ที่พร้อมอัพเดทเทรนด์ใหม่ตลอดปี และยังสร้าง QR Code ติดที่ป้ายราคา เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECO Choice ใน 6 กลุ่มสินค้า ได้แก่
- กลุ่มสินค้าปลอดภัย ยอดจำหน่าย 36.6 ล้านชิ้น
- กลุ่มสินค้าประหยัดพลังงาน ยอดจำหน่าย 3.1 ล้านชิ้น
- กลุ่มสินค้าลดก๊าซเรือนกระจก ยอดจำหน่าย 3.5 ล้านชิ้น
- กลุ่มสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยอดจำหน่าย 0.9 ล้านชิ้น
- กลุ่มสินค้าประหยัดน้ำ ยอดจำหน่าย 1.4 ล้านชิ้น
- กลุ่มสินค้ารักษาป่าไม้ ยอดจำหน่าย 46,384 ชิ้น
โดยสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของยอดขาย รวมถึงการพัฒนาสินค้าของกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัย เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แน่นอนว่าแนวทางหลักของโฮมโปร คือ การเสริมสินค้าเรื่องบ้าน ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม Segment ได้อย่างแท้จริง
นอกจากสินค้าเพื่อกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปแล้ว โฮมโปรยังได้รองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง Commercial สินค้าที่ขายเฉพาะกลุ่ม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ เพิ่มความน่าสนใจ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปด้วย ตัวอย่างเช่น สินค้าประเภทเครื่องนอน สำหรับลูกค้ากลุ่มโรงแรม และรีสอร์ท, เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งหลากสไตล์ สำหรับร้านอาหาร และร้านกาแฟ
รวมไปถึงกลุ่มโครงการด้านอสังหาฯ บริษัทมีสินค้าอย่างกระเบื้อง สุขภัณฑ์ คอยรองรับการเติบโตของลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ตลอดจนส่งมอบบริการเหนือระดับ เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์เรื่องบ้านที่ประทับใจ กับทีมช่างมืออาชีพจากโฮมโปร และมีระบบออกแบบ 3 D Design บริการติดตั้ง ตกแต่ง ซ่อมแซม ตรวจเช็ค และบำรุงรักษา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า สามารถควบคุมงบประมาณ และเวลาได้ตามต้องการ
ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย (E- Commerce) โฮมโปรได้พัฒนาขีดความสามารถ ของเทคโนโลยีที่เข้ามา Disruption สู่ Omni Channel เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce พร้อมช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า และบริการของโฮมโปรได้ง่ายขึ้น ด้วยการช้อปได้แบบสบายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจัดส่ง ติดตั้ง และรับประกันคุณภาพภายใต้มาตราฐานโฮมโปร
นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยการวางมาตรฐานด้านระบบ Supply Chain ทั้งการจัดหาสินค้า การสั่งซื้อสินค้า การกระจายสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บสินค้า ด้วยการนำหุ่นยนต์มาใช้ในศูนย์กระจายสินค้า DC (Distribution Center) เรียกว่าระบบ ASRS โดยใช้หุ่นยนต์ในการจัดเก็บ และกระจายสินค้า เพื่อความรวดเร็วในการจ่ายสินค้าได้ 24 ชั่วโมง
