Finance

‘หุ้นอิออน’ เพิ่มมั่งคั่ง ‘ชัชวาลย์ เจียรวนนท์’ อู้ฟู้!!

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2561 เป็นปีแห่งการขาดทุนของนักลงทุนหลาย ๆ คน เพราะผลตอบแทนเฉลี่ยในการลงทุนติดลบถึง 10% ขณะที่ดัชนีหุ้นในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกสวนทางภาพรวมตลาดได้ประกอบด้วย ดัชนีหุ้นหมวดไฟแนนซ์หรือ สินเชื่อรายย่อย เพิ่มขึ้น 3.21% ดัชนีหุ้นหมวดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าซื้อหรือกองรีท  7.08% กลุ่มโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 5.66%

หากพิจารณาเฉพาะหุ้นที่มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 100 อันดับแรก พบว่า มีหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด คือหุ้นบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS  ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย (Retail Finance) โดยราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 75.85% รองลงมาหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTC ประกอบการกิจสินเชื่อ เพื่อผู้บริโภค และบัตรเครดิต ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 63.98% และหุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 26.45%

โครงสร้างผู้ถือหุ้น AEONTS 01

การที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาก ผู้ที่ได้รับผลตอบแทนมากที่สุดก็เห็นจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะมีสัดส่วนการถือครองหุ้นจำนวนมาก และหากไม่มีการขายออกมา หรือลดสัดส่วนการถือครองหุ้น ก็จะทำให้ความมั่งคั่ง หรือ Wealth ของผู้ถือหุ้นเหล่านั้นสูงขึ้นในทันที

ทั้งนี้ หากพิจารณารายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของหุ้น AEONTS 10 อันดับแรก พบว่าส่วนใหญ่เป็นสถาบันต่างประเทศ และสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนรายบุคคล มีเพียง 2 ราย ประกอบด้วย “ชัชวาลย์ เจียรวนนท์” ถือหุ้น จำนวน 14.70 ล้านหุ้นคิดเป็น 5.88% สถาพร งามเรืองพงศ์ ถือหุ้น 4.90 ล้านหุ้นคิดเป็น 1.96%

การที่ “ชัชวาลย์” ถือหุ้นในจำนวนดังกล่าว เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันที่ 180 บาทต่อหุ้น จะทำให้มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองสิ้นปี 2561 สูงถึง 2.60 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2560 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ขณะที่ “สถาพร” มีมูลค่าการถือครองประมาณ 818 ล้านบาท

สำหรับหุ้นAEONTS สิ้นปี 2561 มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท ราคาหุ้นเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 217 บาทต่อหุ้น ต่ำสุดที่ 103 บาท และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 175.19 บาทต่อหุ้น

chatchaval2
ภาพจาก SVI Public Company Limited

เมื่อย้อนดูประวัติของ “ชัชวาลย์ เจียรวนนท์” ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีฐานะเป็นบุตรชายของ “สุเมธ เจียรวนนท์” ประธานที่ปรึกษา ซีพีกรุ๊ป และยังเป็นหลานของ “ธนินทร์ เจียรวนนท์” หรือเป็นที่รู้จักกันอย่างดี คือ เจ้าสัวธนินทร์ ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

ปัจจุบัน “ชัชวาลย์” ยังเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการ ประธานกรรมการ กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจำนวนมาก ประกอบด้วย บริษัทอิออน (AEONTS),บล.ฟินันเซียไซรัส (FSS), บริษัท เอสวีไอ (SVI), บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP)

อย่างไรก็ตาม หุ้น AEONTS เป็นหุ้นที่ยังอยู่ในความสนของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงแนะนำให้ซื้อลงทุน หลังจากล่าสุดที่รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ของปี 2562 มีกำไรเพิ่มขึ้น 20%

นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า กำไรเป็นไปตามคาด โดยกำไรสุทธิงวดกันยายน – พฤศจิกายน 2561 ออกมา 901 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน) ซึ่งเป็นไปตามคาด การเติบโตมาจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลง และหนี้สูญกลับคืนดีเกินคาด ส่วนรายได้โต 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายได้เครดิตการ์ด (41% ของทั้งหมด) โต 13% จากงวดเดียวกันปีก่อน, รายได้จากสินเชื่อ (57% ของทั้งหมด) โต 9% จากงวดเดียวกันปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนของปีมีกำไรคิดเป็น 74% ของทั้งปี

หุ้น12

ขณะที่พอร์ตสินเชื่อโต 7.9% จากปีก่อนเป็น 81.4 พันล้านบาทในสิ้นพฤศจิกายน 2561 (52% เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล, 45% เป็นเครดิตการ์ด และ 2% เป็นสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ) จำนวนบัตรอิออนเติบโต 4% ในปีนี้เป็น 8.43 ล้านใบ ในสิ้นพฤศจิกายน 2561 โดย 2.59 ล้านใบเป็นบัตรเครดิต (เพิ่มขึ้น4%) และ 5.84 ล้านใบเป็นบัตรสมาชิกอิออน (เพิ่ม 3%)

ด้าน NPL Ratio เพิ่มเป็น 2.8% ในสิ้นพฤศจิกายน 2561 เทียบกับ 2.7% ในสิ้นสิงหาคม 2561 เพราะมีการปรับการดำเนินการเรียกเก็บหนี้ แต่จะเป็นเพียงชั่วคราว ด้านหนี้สูญกลับคืนเพิ่ม 33% จากงวดเดียวกันปีก่อน  ด้าน Credit Cost เพิ่มเป็น 7.0% จาก 6.4% ในไตรมาส 2 ปี 2562  สอดคล้องกับ NPL Ratio ที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นพฤศจิกายน 2561 มี Coverage Ratio 126.6% อ่อนลงจาก 128.6% ในสิ้นสิงหาคม 2561

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมิน ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 2562 ไว้ที่ 3.6 พันล้านบาท โดยกำไร 9 เดือนในปี 2562 คิดเป็น 74% ของประมาณการทั้งปี คาดว่าไตรมาส 4 กำไรน่าจะเติบโตขึ้นได้ และน่าจะเป็นไตรมาสที่ผลประกอบการดีที่สุดในรอบปี เนื่องจากปกติเป็น High season

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight