Politics

ปชป.เจาะกลุ่มครูชูนโยบาย ‘เพิ่มรายได้-ลดภาระ’ ครูทั่วประเทศ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ และประธานกรรมการนโยบายฯ ร่วมกันแถลงนโยบาย “ยกระดับครูไทย” หนึ่งในนโยบายหลักเพื่อการ “สร้างคน” ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักจากสโลแกน “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ “ ในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคฯ

อภิสิทธิ์2 1
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การยกระดับครูไทยคือการ “สร้างคนเพื่อสร้างชาติ” ด้วยการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย ที่พรรคฯมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชนตาม 7 เป้าหมายหลัก คือการมีสุขภาพแข็งแรง มีคุณธรรม รู้สิทธิหน้าที่ มีทักษะคิดวิเคราะห์ มีทักษะภาษา มีทักษะชีวิต และมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี ทั้งหมดนี้ จะทำสำเร็จไม่ได้แน่นอนหากขาดนโยบายอันสำคัญยิ่งนั่นคือ การยกระดับคุณภาพของ “ครูไทย”

“วันนี้ เป็นวันครูแห่งชาติ พรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนสดุดีครูไทยทั่วประเทศ พร้อมยกระดับทั้งคุณภาพชีวิตของครู และคุณภาพการเรียนการสอนแก่นักเรียนไทยทุกคน ก่อนหน้านี้พรรคฯ ได้กล่าวถึงนโยบาย คืนครูให้นักเรียน ซึ่งคือ การลดภาระงานของครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เช่น งานธุรการ และปรับวิธีการประเมินครู โดยใช้คุณภาพของนักเรียนเป็นหัวใจหลักในการชี้วัดผลงาน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ทางพรรคฯ จะพลิกวิถีแห่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งระบบ พร้อมปรับปรุงระบบราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้ครูที่เก่งได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ปราศจากระบบที่ครอบงำจากส่วนกลาง โดยย้ำจุดยืนหลักเรื่องการกระจายอำนาจทางการศึกษาให้ตรงไปที่โรงเรียน เพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชน โรงเรียนจัดการตนเอง พัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมกับนักเรียนในท้องถิ่นนั้นๆ รวมไปถึงการคัดเลือกครู ที่จะมีความสามารถเหมาะสมกับแต่ละโรงเรียนอย่างแท้จริง ปลดแอกจากส่วนกลางที่มีวิธีการบริหารการศึกษาที่ซ้ำซ้อน

โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเอาจริงกับการ “กระจายอำนาจสู่โรงเรียน” เพื่อครูจะได้มีความยืดหยุ่นในการสอนตามความเหมาะสม และตรงตามความต้องการที่แท้จริงของนักเรียนไทยในแต่ละท้องที่ อีกทั้ง ยังพร้อมที่จะจัดสรรให้มีการเพิ่มผลตอบแทนแก่ครูไทย ให้มีค่าตอบแทนที่เหมาะสม แก่ความเป็นวิชาชีพชั้นสูง ให้สมศักดิ์ศรีต่อการเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แก่บุคลากรของประเทศ พร้อมกับการปรับใหม่ทั้งหมดในเรื่องการประเมินผลงานของครู ที่ต้องวัดกันด้วยคุณภาพนักเรียนเป็นที่ตั้ง มิใช่การเขียนเอกสารราชการของกระทรวงส่วนกลางอีกต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอย้ำแนวนโยบายสำหรับการยกระดับครูไทย ดังนี้

  • “กระจายอำนาจการศึกษาสู่โรงเรียน” ปลดแอกการบริหารงานการศึกษาออกจากส่วนกลาง
  • “คืนครูให้นักเรียน” ลดภาระงานครู ลดการทำวิทยฐานะที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน คืนครูคุณภาพให้นักเรียน ด้วยการใช้เทคโนโลยี ลดเวลาครูกับงานธุรการ
  • เพิ่ม “ผลตอบแทน-สิทธิประโยชน์ครู” และบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์อย่างเหมาะสม จัดให้มีเกณฑ์บัญชีวิชาชีพครูเป็นกรณีเฉพาะ โดยพิจารณาการเลื่อนขั้นจากผลสำเร็จของนักเรียนแทนการทำวิทยฐานะในเอกสาร
  • “คนเก่งเป็นครู” พัฒนาคุณภาพครู สร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประเทศได้มีครูดีครูเก่ง ทั้งความรู้ทางวิชาการ และทักษะการสอน ยกระดับ “ครู” ให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง อย่างแท้จริง พร้อมสร้าง “ครูยุคใหม่” โดยจะต้องมีคุณลักษณะที่ ทันสมัย-ใช้เทคโนโลยี-จัดประสบการณ์ที่ดี-พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

“พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นหลักมาโดยตลอด พรรคฯ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากคนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดีที่มีคุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องคุณภาพการเรียนการสอน ด้วยการ “ยกระดับครูไทย” ให้มีประสิทธิภาพ เด็กไทยจะโตมาเป็นบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพอย่างแน่นอน พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่ร่วมสร้างประเทศไปกับคนไทยทุกคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนโยบายที่เน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อการ “สร้างคน” และ “สร้างชาติ” ของเรา” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายการปลดหนี้ครูว่า หนี้สินส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากความคาดหวังในแง่สถานภาพทางสังคม เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดหนี้สิน แต่ไม่มีอะไรจะช่วยแก้หนี้สินได้ยั่งยืน เท่ากับการเพิ่มรายได้ ดังนั้น มาตรการเกี่ยวกับหนี้สินพิจารณาเป็นการเฉพาะได้ แต่จะไม่ยั่งยืนหากรายได้ไม่เพิ่มขึ้น การเพิ่มค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์นั้น สมัยที่เราเป็นรัฐบาล ได้มีการเพิ่มเงินเดือนให้กับครูมากที่สุดครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าขณะนี้มีความจำเป็นต้องเพิ่มค่าตอบแทนมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะเมื่อเราสามารถที่จะสร้างระบบของการเพิ่มเงินเดือน หรือสิทธิประโยชน์ที่ผูกกับผลลัพท์ในการทำงานและการพัฒนา เราคิดว่าจะเป็นแรงจูงใจที่สำคัญ และยืนยันว่าเราพร้อมที่จะลงทุน เพราะถือว่าการลงทุนในระบบการศึกษาทั้งหมด เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่คุ้มค่าที่สุด

สำหรับครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีมิติที่แตกต่างจากจังหวัดอื่น คือ การเป็นโรงเรียนสอนศาสนา ดังนั้น นโยบายการเพิ่มรายได้และปลดหนี้ให้กับครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะผนวกรวมไปกับนโยบายของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้การดำเนินนโยบายมีความเป็นองค์รวม และได้ผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น

Avatar photo