“เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2562″ หรือ “แบงค็อกดีไซน์ วีค 2019” จะถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2562 ภายใต้แนวคิด “Fusing Forward ผสานสร้างสู่อนาคต” ที่อาคารไปรษณีย์กลาง และย่านเจริญกรุง โดยความร่วมมือของพันธมิตรทั้งรัฐ เอกชน และนักออกแบบกว่า 1,000 คนที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน
นายพิชิต วีรังคบุตร รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA กล่าวว่า ความสำเร็จจาก “แบงค็อกดีไซน์วีค 2018 “ ที่จัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่าน มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มากกว่า 400,000 คน
CEA จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน “แบงค็อกดีไซน์วีค 2019 ” ครั้งที่ 2 โดยปีนี้จะสร้าง ‘กรุงเทพฯ’ ให้ก้าวสู่เมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่แห่งการรวมตัวนักสร้างสรรค์ และผู้ประกอบการชั้นนำกว่า 1,000 ราย
สำหรับคอนเซปต์การจัดงานในปี 2562 จะแตกต่างจากปีก่อน โดยมุ่งไปสู่การพัฒนาเมืองในมิติต่างๆด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีกินดีนอกเหนือจากการจัดแพลตฟอร์มเปิดพื้นที่ให้นักออกแบบได้ปลดปล่อยไอเดียสร้างสรรค์
สำหรับไฮไลท์สำคัญมีหลากหลาย อาทิ พาวิลเลียนขนาดใหญ่จากพลาสติกรีไซเคิล การโชว์เคส มากกว่า 500 ผลงาน ตลอดจนตลาดนัดรวบรวมสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มต่างหลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่ย่านสร้างสรรค์ (Creative District) ทั้งบริเวณ อาคารไปรษณีย์กลาง และบนถนนเจริญกรุง โดยนำเสนอผ่าน 5 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย
1.การจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ และนิทรรศการ (Showcase & Exhibition) เป็นการรวบรวมผลงานการออกแบบ ทั้งงานต้นแบบ และผลงานพร้อมขาย ที่สะท้อนศักยภาพของนักออกแบบและธุรกิจสร้างสรรค์จากกรุงเทพฯ และเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งสิ้นมากกว่า 500 ผลงาน
2,กิจกรรมชุมนุมทางความคิด และเวิร์คชอป (Talk & Workshop) เป็นการเติมความรู้ แรงบันดาลใจ และอัพเดทเทรนด์การออกแบบล่าสุด จากนักสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยและต่างประเทศ
3.กิจกรรมพัฒนาต้นแบบย่านสร้างสรรค์ (Creative District) ซึ่งจะส่งเสริมย่านเจริญกรุงสู่ความเป็นย่านสร้างสรรค์ทั้งด้านธุรกิจและคุณภาพชีวิต ให้เป็นโมเดลต้นแบบ ตั้งแต่การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การแปลงพื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นพื้นที่กิจกรรม การปรับปรุงการสัญจรภายในย่านเจริญกรุง และการจัดกิจกรรมทัวร์
4.กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพนักสร้างสรรค์ (Event & Program) ส่งเสริมให้นักสร้างสรรค์แสดงศักยภาพในหลากรูปแบบ ตั้งแต่แสดงดนตรี ฉายภาพยนตร์ และศิลปะการแสดงอื่น ๆ รวมถึงการเปิดบ้าน (Open house)
5.ครีเอทีฟมาร์เก็ต (Creative Market) เป็นตลาดนัดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าและการขยายเครือข่ายธุรกิจของผู้ประกอบการเก่าและใหม่
ทั้งนี้คาดว่าการจัดงาน “แบงค็อกดีไซน์วีค 2019 ” จะมีผู้เข้าร่วมงานมากขึ้นเป็นกว่า 500,000 คน ความสำเร็จที่เกิดขึ้น จึงตั้งเป้าให้เทศกาลนี้เป็นเทศกาลประจำปี เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ไปพร้อมกับการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ และเตรียมความพร้อมสู่การผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็น “ประเทศชั้นนำด้านงานออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ในภูมิภาคอาเซียน”
ด้าน นางวราวรรณ ทิพพาวนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กรและเลขานุการ บริษัท บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาบริษัท ร่วมกับ CEA ผลักดันเมกะโปรเจกต์ต่างๆ และในงาน แบงค็อกดีไซน์วีค 2019 ได้สร้างสรรค์ “พาวิลเลียนขนาดใหญ่จากพลาสติกรีไซเคิล”
GC มุ่งนำเสนอเนื้อหา และประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่อง “Circular Living” ซึ่งเป็นแนวคิดการบริหารจัดการพลาสติก เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมแบบมีส่วนร่วมจากผู้ผลิต และผู้ใช้ ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ วิธีการผลิต และการใช้งานพลาสติก
ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่ 3R คือ ลดปริมาณการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse)และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ โดยนิทรรศการดังกล่าว เปิดให้เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดการจัดงาน 9 วัน
“การจัดแสดงของเรา ต้องการให้ข้อมูล และสร้างการรับรู้ว่า 3R พลาสติกสามารถปฏิบัติได้จริง ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้สาธารณะรับทราบถึงทิศทางเศรษฐกิจหมุนเวียนที่จะมุ่งเน้นใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปนำไปต่อยอดได้” นางวราวรรณ กล่าว
9 วันที่จะมีการผู้คนกว่า 500,000 คนมารวมกันครั้งนี้ ทั้งเขตบางรัก และสัมพันธวงศ์ต่างสนธิกำลังเตรียมพร้อมตามลำดับ เพื่อให้งานที่จะเกิดขึ้นสมบูรณ์แบบที่สุด นางสาวภัคภร สงวนศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก บอกว่า เทศกาล “แบงค็อกดีไซน์วีค 2019 ” ถือว่าเป็นงานที่มีความสำคัญมากที่จะโชว์วิถีชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และแสดงศักยภาพของเจริญกรุง ซึ่งจะนำมาสู่รายได้โดยตรงจากการท่องเที่ยว เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวในระยะยาว รวมถึงทำให้เกิดบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์ขึ้นในภาพรวม โดยประเด็นหลักที่เราจะเตรียมพร้อมนอกจากสถานที่แล้ว คือ การจัดการขยะที่จะเกิดขึ้นจำนวนมากจากผู้ที่มาเที่ยวชมงานหลายแสนคน
ขณะที่นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ บอกว่า จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนโดยรอบรับทราบถึงแนวคิด และกระบวนการจัดงานที่จะมีขึ้นตลอด 9 วันเต็ม เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมนำสินค้ามาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจชุมชนกระเตื้องขึ้นตามไปด้วย
