COLUMNISTS

สัญญาณจาก ‘ทักษิณ’ ส่งตรงถึงลูกทีม

Avatar photo
1433

อุณหภูมิความร้อนแรงทางการเมืองนับวันจะยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกขณะ เริ่มมาตั้งแต่การย้ายขั้ว-สลับข้าง เกิดความเคลื่อนไหวกันหนักในช่วงที่ผ่านมา มีทั้งส่วนที่ย้ายพรรคหนีแบบ “หนีร้อน ไปพึ่งเย็น” หรือไม่ถูกบังคับย้ายแบบไม่เต็มใจย้าย เพื่อความอยู่รอดก็มี หรือย้ายแบบอยากย้ายเองก็มี การย้ายพรรคของอดีตส.ส.แต่ละคนแต่ละกลุ่มมีความจำเป็นที่ต่างกัน งานนี้เรียกว่าจบสิ้นไปแล้ว

หลังจากย้ายพรรคจบลง แกนนำหลายพรรคถึงกับต้องออกมา ส่งสัญญาณบอกลูกทีมที่เหลือทำนองไม่รู้สึกและไม่ได้ทำให้พรรคเสียหายอะไร กับการย้ายพรรคของ อดีตส.ส.บางคนและบางกลุ่ม เพราะถึงอย่างไรในแต่ละพรรคยังมีผู้สมัครสำรองที่สามารถทดแทนได้ แต่ที่น่าคิดทำให้แต่ละพรรคย่อม เห็นถึง“ความจริงใจ”ของ อดีตส.ส.ที่มีต่อพรรคต้นสังกัดเดิมก็แค่นั้น

หลายฝ่ายมองว่าพรรคที่เลือดไหลมากที่สุดเห็นทีจะเป็นพรรคเพื่อไทยเสียมากกว่า ที่มีอดีตส.ส.ไหลไปกองรวมอยู่ที่“พรรคพลังประชารัฐ” จำนวนไม่น้อย จนถูกมองว่าเป็นพรรคที่สั่นคลอนมาก หากจะมีเลือกตั้งเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

คดี "ทักษิณ" ฮุบทีพีไอ

ภายใต้การไหลออกของบรรดาอดีต ส.ส. ในพรรคนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ “นายใหญ่”อย่างนายทักษิณ ชินวัตร รู้สึกหวั่นไหว แต่กลับส่งแรงใจถึงบรรดาแกนนำที่เป็นทั้งคนในพรรคเพื่อไทย และคนนอกพรรคเพื่อไทยที่ยังมีศัทธา ด้วยการส่งคลิปเสียงเพลง “สบาย สบาย” ของพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ผ่านไลน์ให้กับบรรดาแกนนำ นั่นหมายถึงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย แทบจะไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว หรือเสียสูญ เสมือนเป็นการให้กำลังใจลูกทีมที่เหลือ และบริวารที่ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทย

งานนี้ใครได้รับคลิปเสียงเพลง“สบาย สบาย”ของพี่เบิร์ด ไปบ้างน่าจะรู้อยู่แก่ใจ แต่เท่าที่รู้ส่วนใหญ่เป็นแนวร่วมต่างพรรคเสียด้วย นั่นหมายถึงไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยกำลังผนึกพรรคพันธมิตรล่วงหน้าแล้วก็เป็นได้

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าบอกได้เลยรอบนี้ไม่ธรรมดา และจะไม่ธรรมดาในหลายๆเรื่อง อย่างที่รู้ๆกัน แค่เห็นการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ประกาศออกมาแล้วมีแต่เสียง“นินทา ด่าทอ” จากพรรคการเมืองต่างๆ เสียส่วนใหญ่ ที่มองเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เกิดขึ้น  แต่สิ่งที่ปรากฎออกมา ยิ่งทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการแทรกแซงที่เด่นชัด

ภูมิธรรม3011

คนการเมืองจำนวนมากต่างออกมาดาหน้าอัดแหลก ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ “สุดอัปลักษณ์” บางคนออกมาเปิดโปงว่ามี“ไอ้โม่ง”เข้าไปแทรกแซงจัดการแบ่งเขต ยึด“กติกู”ไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองบางพรรค จากการแบ่งเขตเลือกตั้ง  สะท้อนให้เห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น

ฉะนั้นวันนี้แค่เป็นจุดเริ่มต้นของการเมือง ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวเสียแล้ว หากถึงวันเวลาที่มีการเลือกตั้งจริงอะไรจะเกิดขึ้น

วันนี้ยังไม่เริ่มต้นขบวนการทางการเมืองแบบเต็มร้อย ยังมี“ไอ้โม่ง” คอยแทรกแซงได้ขนาดนี้ จะให้ใครเชื่อได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มันจะสร้างความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้จริง ฉะนั้นต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ ในการรณรงค์การเลือกตั้งให้เสียเวลา เพราะถึงอย่างไรมันก็เป็น“เลือกล็อก”กันอยู่แล้ว หรือไม่สามารถ“หยุดยั้งความกระหายทางอำนาจได้” ก็ให้สืบทอดต่อไปอีก 5 ปี 10 ปีเสียเลย

ถามว่าถ้ามีสภาพเป็นอย่างนี้ การจะสกัดกั้นหรือหยุด“ความวุ่นวาย” มันจะจบสิ้นไปได้จริงหรือ แต่ที่อดคิดไม่ได้ สุดท้ายเกรงว่าจะสร้างความวุ่นวายกันยกใหญ่ ผลกรรมก็จะทำให้ “บ้านเมืองก็พังพินาศ” จะให้ประเทศชาติมันบอบช้ำไปอีกนานแค่ไหน

วันนี้ลองเดินให้ทะลุ ทุกซอก ทุกมุม ลงไปถามชาวบ้านจริงๆทีเถอะ  เขามีเงินมีทองมีกินกันแค่ไหน หมดเวลาสร้างภาพสวยหรูกันทีเถอะ ก่อนที่ประเทศชาติและบ้านเมืองจะล่มจมไปกว่านี้