Entertainment

สรุปคำแถลง ‘หมิว’ ฉุนถูกตร.คุกคาม ตามเข้าห้องน้ำ แต่อีกฝ่ายกลับหาว่าคิดไปเอง

จากกรณีที่นักแสดงสาว “หมิว -สริลภัส กองตระการ” ออกมาโพสต์คลิปและข้อความเตือนภัย หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเข้าห้องน้ำหญิงภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเธอแจ้งความร้องทุกข์ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่เรื่องกลับเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น กระทั่งล่าสุด (22 มี.ค.) หมิว สริลภัส ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว

14 หมิว สริลภัส กองตระการ 2

-เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 (มี.ค.) ช่วงกลางคืน หมิวขับรถไปส่งเพื่อนที่ลาดพร้าวซอย 8 จากนั้นก็ขับรถกำลังจะไปคุยงานเรื่องเพลงที่ซอยรัชดา 32 แต่รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ จึงแวะปั๊มเข้าห้องน้ำ

-พอจอดรถ ก็เห็นรถอีกคันนึงมาจอดอยู่ด้านข้าง จึงรู้สึกถึงความไม่ค่อยปลอดภัย เพราะรถคันข้าง ๆ ไม่ยอมลงสักที จนเราไม่ไหว ต้องการเข้าไปทำธุระส่วนตัวเรา ตัดสินใจหยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่ในเก๊ะหน้ารถไปด้วย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือไปเข้าห้องน้ำ

-ตอนแรกยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่ตอนที่เราเดินเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงคนเข้าห้องน้ำเยื้องไปทางด้านซ้ายของหมิว ด้วยความที่เป็นคนะวังตัวและระแวงอยู่แล้ว หมิวตัดสินใจยังไม่ทำธุระส่วนตัว

-หมิวมองเข้าไปประตูห้องน้ำห้องนั้น เขาไม่ได้ล็อก และไม่ได้ยินเสียงถอดกางเกงหรือจะทำอะไรเลย ก็เริ่มเอะใจแล้วว่ามันผิดวิสัยคนจะเข้าห้องน้ำ

-พอห้องนั้นเงียบ หมิวเลยไม่กล้าทำธุระส่วนตัว เหมือนดูเชิงกันไปมา ทีนี้ก็มีจังหวะที่เหมือนเขาชะเง้อขึ้นมาพอดี เราก็เลยเห็นว่า อ้าว นี่มันผู้ชายหัวเกรียนนี่หว่า หมิวก็เลยถามว่าอะไร

-ตอนแรกก็คุยกันระหว่างห้องน้ำ หมิวตะโกนถามไปว่าพี่ทำอะไร เขาก็รีบออกจากห้องน้ำไป หมิวก็ถือมีดตามออกไป ถามว่าพี่เข้าห้องน้ำหญิงทำไม เขาก็ปฎิเสธว่าไม่มีอะไร หมิวบอกไม่มีอะไรได้ยังไง แล้วเข้าห้องน้ำหญิงทำไม แล้วเจตนาก็ถือมือถืออยู่จะเข้าไปถ่ายอะไรหรือเปล่า

-แต่เชื่อว่าเขายังไม่ได้ถ่ายแน่นอน เพราะถ้าเขาถ่าย หมิวต้องเห็นว่ามีการยื่นมือถือออกมา

-มั่นใจว่าถ้าเป็นคลิปของหมิวไม่มีแน่นอน เพราะว่าหมิวดูตั้งแต่เขายังไม่เริ่มทำอะไรเลย แล้วเขาก็บอกว่าไม่มีอะไร ๆ ผมบริสุทธิ์ใจครับ เขาก็เปิดมือถือให้ดู

14 หมิว สริลภัส กองตระการ 11

-หมิวไม่กล้าถ่ายวิดีโอที่จะเห็นหน้าเขาเต็ม ๆ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ตัวค่อนข้างใหญ่ ประเมินดูแล้วว่าถ้าเกิดหมิวทำอะไรที่มันล้ำเส้นเขาเกินไป หมิวอาจจะโดนทำร้ายร่างกายได้ และตรงนั้นก็ไม่รู้ว่าใครจะช่วยหมิวได้บ้าง

-พอปฎิเสธเสร็จเขาก็รีบขึ้นรถ หมิวพยายามจะยื้อประตูรถเขาไว้ แต่ยื้อไม่ไหว และที่ตกใจอยากให้ทุกคนเห็นคือนี่มันรถตำรวจ หมิวยิ่งตกใจว่านี่มันคือการคุกคามนะ ไม่ใช่คุกคามธรรมดาด้วย นี่คือการคุกคามทางเพศ

-หลังจากเขาเข้าห้องน้ำไป หมิวไม่ได้ยินเสียถอดกางเกงหรือทำอะไรเลย สภาพการแต่งกายเรียบร้อยเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ท่าทีเขาก็ดูตกใจ บอกไม่มีไรครับ ๆ

-วันนั้นไม่กล้าฟันธงว่าเขาใส่ชุดอะไร เพราะว่าด้วยความที่หมิวตกใจ และตอนนั้นค่อนข้างดึก แสงไฟบริเวณนั้นไม่ได้มืด แต่หมิวตกใจและค่อนข้างโมโห แต่รายละเอียดที่จำคือรถที่เขาขับมามากกว่า

-ตอนที่ออกมาเจรจากับเขา มีเด็กปั๊มอยู่ แล้วหมิวค่อนข้างเสียงดัง แต่ตอนนั้นไม่มีลูกค้ารายอื่น

-ที่เขาให้ข่าวว่าเขาไม่รู้ว่านั่นคือห้องน้ำผู้หญิง ยืนยันว่า ณ จุดที่เขาจอดรถ เห็นป้ายห้องน้ำแยกชัดเจน ไม่ใช่ห้องน้ำรวม การเดินเข้าไปป้ายก็บอกชัดเจนมากว่านี่คือห้องน้ำหญิง พอเดินตรงเข้าไปอีกก็คือห้องน้ำชาย ตรงนั้นมีไฟด้วย ถ้าดูจากกล้องวงจรปิด

14 หมิว สริลภัส กองตระการ 4

-ถ้าเขาบอกว่าปวดฉี่มาก ไม่ได้สังเกต คำตอบจากกล้องวงจรปิดน่าจะชัดเจน อาจจะต้องไปขอความร่วมมือจากตำรวจ เพราะที่หมิวได้มาจากพี่ ๆ นักข่าวคือได้มาแค่ภาพ ถ้าเจตนาบริสุทธิ์ใจแล้วเข้าห้องน้ำผิดจริง ๆ คำแรกที่ควรจะพูดออกมา ควรต้องบอกว่าน้องใจเย็น ๆ ก่อน พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ พี่เข้าใจผิด

-ถ้าทางกฎหมายไม่มีหลักฐาน เราจะดำเนินคดีเขายังไง หมิวว่าเจตนาในการเดินตามเข้าห้องน้ำผู้หญิงก็เป็นการคุกคามทางเพศแล้ว ถ้าเขาอ้างว่าเขาป่วยทางจิต แล้วติดตามเรา มันก็คือการคุกคาม แล้วมันจะต้องไม่มีความผิดเหรอ มันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นี่คือการเข้าห้องน้ำของหมิว และนี่คือห้องน้ำหญิงซึ่งแยกไว้เฉพาะเป็นสัดส่วนให้ผู้หญิง เพศสภาพหญิงเข้า แต่เขาเพศสภาพชาย ไม่ควรเข้ามาในห้องน้ำหญิง

-หมิวพกมีดปอกผลไม้ไว้ในรถเพราะไปเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว มันไม่ผิดที่เราจะพกอะไรไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาอย่างน้อยมันก็เป็นอุปกรณ์นึงที่น่าจะสามารถช่วยชีวิตเราได้ ไม่ได้คิดจะใช้เป็นอาวุธเอาไปทำร้ายคนอื่น แต่พกไว้เพื่อเป็นสิ่งที่ป้องกันตัวเองจากการถูกทำร้าย พกมีดอันนี้ไว้ตั้งแต่เริ่มขับรถ ปกติไม่เคยถือเอาลงจากรถเลย แต่วันนั้นรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย

-ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี แต่ทางต้นสังกัดของตำรวจท่านนี้ได้มีการติดต่อมาว่าตอนนี้ได้ทราบเรื่องแล้ว เขาก็ได้ถามถึงคนก่อเหตุแล้วว่าวันนั้นไม่ได้มีการรายงานใด ๆ เกิดขึ้นเลย พอทราบข่าวตอนนี้เขาก็พยายามสอบสวนและดำเนินการให้ได้ไวที่สุด ถ้าหมิวอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมเขาก็พร้อมที่จะประสานงานให้

14 หมิว สริลภัส กองตระการ 10

-แต่ยังไม่ได้ชี้แจงว่าคู่กรณีมาปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นเรื่องส่วนตัว บอกเพียงแค่ว่า จากการที่ได้สอบถามเบื้องต้นเขาบอกว่าเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ แล้วอยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงโวยวายจากหมิว

-ส่วนคู่กรณีไม่มีท่าทีในการจะพยายามติดต่อหรือมาเจรจากับหมิว เขาคิดว่าเรื่องคงเงียบ เพราะหลังจากหมิวแจ้งความไปวันที่ 7 เรื่องเกิดวันที่ 6 แล้วก็หายไปอีก 2 อาทิตย์ที่หมิวไปฟื้นฟูสภาพจิตใจเยียวยาตัวเองก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้น จนตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊ก แล้วก็เลยได้รับการติดต่อมาทันที

-ตอนแรกอยากคุยเป็นการส่วนตัวก่อน อยากทราบถึงเหตุผลของเขา ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจ เข้าห้องน้ำผิดจริง ๆ ก็พร้อมที่จะยกโทษและให้อภัย เพราะกังวลว่าเขาจะต้องโดนลงโทษทางวินัยและโดนไล่ออกจากงาน ถ้าเกิดเขามีครอบครัว ลูก ภรรยา หมิวก็ไม่อยากไปทำให้ภรรยาและลูกเขาเดือดร้อน

-แต่ว่าสิ่งที่หมิวได้ยินมาเขามีการกล่าวอ้างว่าเขาไม่ผิด หมิวคิดไปเอง หมิวไปโวยวายเอง ห้องน้ำรวมหรือเปล่า หมิวก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้เจตนามันไม่บริสุทธิ์ใจหรือเปล่า เพราะฉะนั้นหมิวอยากให้เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมาย แล้วก็อยากให้ดำเนินการเต็มที่และอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง เพราะตำรวจเป็นอาชีพที่ประชาชนควรจะต้องไว้ใจ

14 หมิว สริลภัส กองตระการ 3

-หมิวเป็นประชาชนคนหนึ่ง ถ้าจะพูดในฐานะเป็นกระบอกเสียงของประชาชนคนนึงก็อยากจะบอกว่า เรามีสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน เราแค่อยากได้ความปลอดภัยจากการใช้ชีวิตประจำวันแค่นี้เอง ทำไมตำรวจถึงให้เราไม่ได้ ตำรวจทำงานอะไรอยู่ หน้าที่หลักของตำรวจคืออะไร ไม่ใช่การดูแลความปลอดภัยของประชาชนเหรอ ตอนนี้ประชาชนคนนึงถูกคุกคามจากอาชีพที่ควรจะได้รับความไว้วางใจมากที่สุด แต่ดันกลับมาคุกคามประชาชนเสียเอง อย่างนี้จะให้หมิวไปไว้ใจหรือพึ่งพาใครได้

-หมิวยังมั่นใจว่ายังมีตำรวจท่านอื่นอีกหลายคนที่พร้อมจะให้ความยุติธรรมกับหมิว และอีกหลาย ๆ คดี หมิวยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมอยู่ หมิวก็ยังอยากให้มันเกิดขึ้นและหมิวก็เชื่อว่ายังมีหลาย ๆ คนที่ยังติดตามข่าวนี้ อยากให้มันเกิดขึ้น

-ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างแย่ คนรอบข้างเขาก็บอกว่าให้ระวังตัวในการจะเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว เพราะว่าหมิวไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัยขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้แค่ออกไปเซเว่นหมิวยังไม่กล้าเลย

-ถ้าไปเจอคู่กรณีแล้วเขาขอไกล่เกลี่ย ก็ให้เป็นเรื่องของทางคดีความทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินการเขาให้ถึงที่สุด แต่ว่าเบื้องต้นขอคุยกับเขาก่อนดีกว่า

-หมิวเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวที่เลี้ยงดูคนที่บ้าน ถ้าเกิดหมิวเป็นอะไรขึ้นมาพ่อกับแม่หมิวจะอยู่ยังไง ถ้าเรื่องนี้มันไปเกิดขึ้นกับลูกสาวของบ้านไหนขึ้นมามันไม่ได้ทำร้ายแค่ชีวิตของคน ๆ เดียว มันทำร้ายทั้งสถาบันครอบครัว แล้วมันก็สร้างบาดแผลให้กับคน ๆ หนึ่ง หมิวว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่เราจะต้องมองข้าม มันเป็นความปลอดภัยเป็นสิทธิ์ที่เราควรจะได้ แล้วทำไมเราถึงไม่ได้ในเมื่อเราทำตามหน้าที่ของประชาชนคนทั้งหมด

🚫 ด่วน !!! เตือนภัยสังคม ใครแชร์ได้ช่วยกันแชร์ให้ถึงที่สุดนะคะ !! 🚫

✅ แก้ไขเพิ่มเติม…

โพสต์โดย Sirilapas Kongtrakarn เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม 2021

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo