ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (1-5 มี.ค.) ที่ 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค. นอกจากนี้ตลาดอาจยังรอติดตามสถานการณ์โควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ
เงินบาทขยับกลับมายืนในฝั่งอ่อนค่ากว่าแนว 30.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดีแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วนในระหว่างสัปดาห์ตามสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินจากถ้อยแถลงของประธานเฟด แต่เงินบาทก็กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่บันทึกยอดขาดดุลในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา
ในวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.12 เทียบกับระดับ 29.99 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ก.พ.)
อ่านเพิ่มเติม:
- เงินบาทซื้อขายในกรอบ 29.85-30.10 ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด-ข้อมูลส่งออก
- ราคาทองคำวันนี้ 27 ก.พ. ร่วง 250 บาท ตามทิศทางตลาดโลกใกล้ 1,700 ดอลลาร์
- หุ้นในสัปดาห์หน้าแกว่งช่วงแคบ แนวรับ 1,460 แนวต้าน 1,525 จุด