“อนุทิน” ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขนัดแรกของปี 2564 พร้อมขอบคุณบุคลากรสาธารณสุข ทุกวันเป็นวันทำงาน ทุ่มเท เสียสละ ทำงานดูแลสุขภาพประชาชน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารนัดแรกปี 2564 ขอบคุณบุคลากรสาธารณสุข ที่ทุ่มเท ทุกวันเป็นวันทำงาน ผลักดันนโยบายเพื่อสุขภาพประชาชน ทั้ง 3 หมอ สังคมผู้สูงอายุ ควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 ลดอุบัติเหตุปีใหม่ ข่าวดีคนไทยจะได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 35 ล้านโดส
ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1/ 2564 โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ร่วมประชุม
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ ได้ประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นัดแรกของปี 2564 ออนไลน์ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการกักกันตัวเอง ผลตรวจ 2 ครั้งเป็นลบ วันนี้จะตรวจอีกครั้ง ซึ่งผู้บริหารส่วนหนึ่ง ที่อยู่ในระหว่างกักตัวก็ได้ร่วมประชุมออนไลน์เช่นกัน
นายอนุทิน ได้ขอขอบคุณบุคลากรที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ทำงานดูแลสุขภาพประชาชนตลอดปีที่ผ่านมา ทุกวันเป็นวันทำงาน ไม่มีโอกาสได้พักผ่อนใช้เวลากับครอบครัว เพื่อให้นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขไปสู่ประชาชน ทั้งเรื่อง 3 หมอ การจัดระบบบริการสุขภาพที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ การรณรงค์ลดอุบัติเหตุ และความรุนแรงการบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่
การติดตามความก้าวหน้า การจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 และการควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 เราทำดีที่สุดแล้ว โรงพยาบาลต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHOSNET) ได้สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำให้ภารกิจบรรลุเป้าหมาย เป็นสิ่งที่พิสูจน์การทำงานเพื่อส่วนรวม เป็นความภาคภูมิใจที่ทุกฝ่ายยอมรับว่ามีกระทรวงสาธารณสุขคอยดูแล และจะช่วยกันทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนเดิมในเวลาอันรวดเร็ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ข่าวดีของคนไทยที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เพิ่มอีก 35 ล้านโดส ทำให้ภาพรวมวัคซีนของไทยมี 63 ล้านโดส สำหรับวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า คาดว่าปลายเดือนมกราคม 2564 นี้ จะผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คนไทยจะได้รับวัคซีนที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
สำหรับภาคเอกชนนั้น กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้กีดกันการนำเข้า แต่ต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง การนำเข้าวัคซีนโควิด 19 จะต้องได้รับการอนุมัติจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ส่วนวัคซีน 2 ล้านโดสที่ซื้อจากประเทศจีน จะเริ่มฉีด 2 แสนโดสในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีแผนที่จะให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องทำงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรด่านหน้า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อมีอาการรุนแรง
สำหรับชุดทดสอบ (Rapid Test) ที่ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยตนเอง ยังไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ และอย.ได้แจ้งเตือนแล้ว ขอให้ประชาชนระวังการให้ผลลบปลอม จะทำให้ชะล่าใจ นำเชื้อมาสู่ครอบครัว เสียเงินโดยไม่จำเป็น การตรวจที่ปลอดภัยขอให้รับการตรวจจากโรงพยาบาล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สาวติดโควิด-19 ‘เชียงใหม่’ โพสต์แจงไม่ใช่เด็กเอ็นฯ แค่มีเพื่อนเยอะ ชอบเที่ยว
- ศบค.พร้อมยกระดับความเข้มข้น ถ้าผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูง แจงรพ.สนาม ใช้เฉพาะในจังหวัดนั้น
- ข่าวปลอมป่วน ‘รพ.จุฬาลงกรณ์’ ปล่อยกระแส คนติดโควิด ปิดไทม์ไลน์ ทำกักตัววุ่น