สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 4 ม.ค. 2564 พุ่งขึ้น 200 บาท จากราคาปิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 2 ธ.ค.)
ราคาทองวันนี้ 4 ม.ค. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 27,050 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 27,150 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 26,560.32 บาท และขายออก ที่บาทละ 27,650 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,918.50 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ราคาทองคํา Spot พุ่งขึ้นแรงทะลุ 1,900 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,918 ดอลลาร์ รับเช้าวันจันทร์วันทำงานวันแรกหลังหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ทองในประเทศเปิดตลาดพุ่งขึ้นแรงทะลุ 27,000 บาท อย่างไรก็ดี เงินบาทที่แข็งค่าต่ำกว่าระดับ 30 บาทเป็นปัจจัยลบกดดันทองปรับขึ้นได้ไม่มาก
รายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ ติดตามการประชุมโอเปค และประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. โดยสัปดาห์นี้(4 – 8 ม.ค. 64) ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก รวมถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่างๆ
ส่วนรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐสัปดาห์นี้ติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือนธ.ค. รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งล่าสุด ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคการบริการ จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น นอกจากนี้ ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) และการแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)
ประกาศราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดขึ้นพรวด 200 บาท ตามทองคำตลาดโลก แต่อย่างไรก็ดี เงินบาทเช้านี้ยังแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 30 บาท(29.92) เป็นปัจจัยลบต่อทองในประเทศปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าทองคำโลก
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,920 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่รุนแรงมากขึ้น โดยจะมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 1,920 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,935 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับแรกจะอยู่ที่บริเวณ 1,880 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,870 ดอลลาร์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำในวันทำการสุดท้ายของปี 2020 จะได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 787,000 ราย
อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด เพราะโดยรวมแล้วราคาทองคำในระยะนี้ยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ในวงกว้างว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ หลังเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับต่ำสุดจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน
นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากเรือรบ 2 ลำของสหรัฐได้ทำการแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีน ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทางตลาดหุ้นได้เริ่มกระบวนการถอดบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของจีน 3 แห่งออกจากตลาดแล้ว ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +0.88 ตันในวันพฤหัสบดี
ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาทองคำปิดตลาดในวันทำการสุดท้ายของปี 2021 ที่ระดับ 1,897.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมกับปิดตลาดในเดือน ธ.ค.ด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.8% และปิดตลาดในปี 2020 ด้วยปรับตัวสูงขึ้น 25% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นในรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 ขณะที่เช้านี้ราคาทองพุ่งต่อแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์บริเวณ 1,918.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง
ลุ้นที่ราคาทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,921 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,900-1,889 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทองคำ ฟันธงระยะยาวยังเป็นขาขึ้น แม้ระยะสั้นผันผวน
- สัญญาณเตือนราคาทองคำ ‘ขาลง’ เมื่อนักลงทุนแห่ถอนเงินลงทุนครั้งใหญ่
- เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ซื้อขาย ‘ทองคำ’ แบบ Real Time ด้วยเงินดอลลาร์
