Politics

‘บิ๊กตู่’ สั่งฟันโกง ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ลั่นต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด!

“นายกรัฐมนตรี” สั่งฟันทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ลั่นต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากได้รับทราบว่า มีการแสวงหาผลประโยชน์ ในเชิงทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระหว่างผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก และผู้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ โดยจะต้องตรวจสอบให้ครบว่า กลุ่มที่กระทำการในลักษณะดังกล่าวเป็นใคร และหาสถานที่ที่ทำการทุจริตให้ครบ พร้อมกับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดด้วยเสียงเข้มถึงกรณีการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) พบการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ เพราะเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง ตรวจสอบแล้วอย่ากลับมาบอกนะว่าไม่มีการทุจริต เพราะตนไม่เชื่อ

ประยุทธ์151211

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีการร้องเรียนทุจริต “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” ว่า ททท. ได้มีการหารือกับหน่วยงานภาคเอกชน และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ กระทรวงการคลัง และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในเรื่องดังกล่าว

จากการตรวจสอบ พบว่า มีโรงแรม 312 แห่ง และ ร้านค้า 202 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการมีพฤติกรรมต้องสงสัยเข้าข่ายทุจริตโครงการรัฐ โดยลักษณะของพฤติกรรมต้องสงสัย มีอยู่ 6 รูปแบบ ประกอบด้วย

  1. จองห้องพักโรงแรมราคาถูก ผ่านแอปฯ มีการเช็คอิน แต่ไม่ได้เข้าพักจริง แต่ได้ประโยชน์จากการใช้คูปอง
  2. โรงแรมขึ้นราคาค่าห้อง และ รู้เห็นเป็นใจกับร้านอาหาร โดยมีการซื้อขายสิทธิ์กัน ไม่ได้มีการเดินทางจริง โดยผู้ขายสิทธิ์จะส่งเลข 4 ตัวท้ายบัตรประชาชน และ เบอร์มือถือ เพื่อทำการเช็คอินแต่ไม่พักจริง
  3. โรงแรมมีตัวตนจริง ลงทะเบียนถูกต้อง แต่ยังไม่เปิดบริการ แต่กลับมีการขายห้อง และขอรับงบประมาณช่วยเหลือจากรัฐ
  4. มีการใช้ส่วนต่างคูปองเติมเงิน โดยร้านค้าจะใช้คูปองเต็มจำนวนบ่อยครั้ง
  5. มีการเข้าพักจริงแต่เป็นกรุ๊ปเหมา โดยโรงแรมจะตั้งราคาสูง และได้เงินทอน ส่วนใหญ่เป็นการจองตรงกับโรงแรม
  6. มีการกินส่วนต่างของการขายห้องเกินจำนวนที่โรงแรมมี เช่น โรงแรมมีห้องพัก 100 ห้องแต่เปิดขาย 300 ห้อง โดยใช้วิธีอัปเกรดให้โรงแรมอื่น แล้วกินส่วนต่าง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจพบ พฤติกรรมต้องสงสัย เข้าข่ายการทุจริตโครงการรัฐ ดังนั้น ททท. จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์เพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ ที่เดิมจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.63) ออกไปก่อน ด้วยเหตุผลด้านการตรวจสอบและปราบปรามทุจริต

“แต่ยืนยันว่าโครงการในภาพรวมยังเดินต่อได้ ซึ่งต้องระวังผู้ฉวยโอกาส และจะไม่กระทบการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ เนื่องจากเชื่อว่ามีการจองห้องพักล่วงหน้าไว้แล้ว” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo