การเดินทางมาราชบุรีครั้งนี้ของผม อาจต่างจากครั้งก่อนๆ เนื่องจากที่ที่ผมตั้งใจจะไป หลายๆที่เกิดฝนตกจนน้ำท่วมขึ้น ผมไม่สามารถกำหนดภัยและสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติได้ ครั้งนี้ผมจึงออกเดินทางแบบไม่กะเกณฑ์มากมายนัก แต่จะขับรถไปตราบที่หนทางจะมี ไม่แน่นะครับ ในความไม่ตั้งใจมากนัก อาจจะได้มุมมองใหม่ แบบที่ไม่เคยมีก็ได้ ผมหวังว่านะ
และแน่นอนที่สุดสำหรับการออกเดินทางในช่วงนี้ คือ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม และ รับผิดชอบต่อสังคมในฐานะนักท่องเที่ยวที่ดี ผมจึงมี 5 ลิสต์ง่ายๆ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ที่อยากให้นักเดินทางทุกท่านท่องไว้ให้ขึ้นใจ คือ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ใช้ถุงผ้าลดภาวะโลกร้อน ทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทาง และสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมที่ดีทางสังคมเพื่อทำนุบำรุงแหล่งท่องเที่ยวนั้น ให้อยู่คู่เมืองไทยตลอดไป 5 ข้อง่ายๆทำได้แน่นอนครับ
เมื่อพร้อมทั้งกาย ทั้งใจแล้ว เราไปยังจุดหมายแรกของเรากันเลยครับ “อุทยานหินเขางู”
อุทยานหินเขางูเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีความคดเคี้ยว ซับซ้อน แต่สวยงามชวนค้นหา จากสัมปทานระเบิดหิน สู่สวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี จนปัจจุบันกลายเป็นอุทยานหินเขางูในที่สุด
บรรยากาศโดยรอบของที่นี่ ถือว่าดีมากๆครับ รายล้อมด้วยแม่น้ำ ภูเขา สะพานแขวน คงถูกใจคนชอบถ่ายรูปไม่น้อยเลยครับ ผมเองก็เก็บภาพสวยๆจากที่นี่ไว้ได้หลายมุมมองเลย หากอยากหย่อนใจสักครู่ ที่นี่ก็จะมีร้านเครื่องดื่ม ศาลา เรือถีบ ให้เราได้ทำกิจกรรมและนั่งพักผ่อนกันครับ
หรือหากมีเวลามากพอ ผมอยากให้ทุกๆท่านได้ลองขับรถลัดเลาะ ไปยังถ้ำต่างๆที่อยู่บริเวณอุทยานหินเขางู เช่น ถ้ำฤๅษี ถ้ำจีน ถ้ำจาม และ ถ้ำฝาโถ ที่มีประวัติแตกต่างกันออกไป
คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับที่นี่คือ ขอความร่วมมือขับรถช้าๆนะครับ เพราะฝูงลิงเจ้าถิ่น มักจะอยู่ตามถนนระแวกอุทยาน เกรงว่าน้องๆจะได้รับอันตรายครับ และคำแนะนำที่ 2 เก็บข้าวของเครื่องใช้กันดีดีนะครับ เพราะน้องลิงที่นี่ซนมากๆ หากเผลอ ของมีค่าของคุณอาจอยู่ในมือลิงโดยไม่รู้ตัว
อีกนึงสัตว์คู่จังหวัดนอกเหนือจากลิง ก็เห็นจะเป็นค้างคาวนี่ล่ะครับ ค้างคาวที่นี่มักออกหากินช่วง 6 โมงเย็น จุดที่สามารถมาชมได้ คือ วัดช่องพราน บริเวณปากเขาช่องพรานครับ ค้างคาวที่นี่ออกบินทุกวันไม่มีวันหยุดงาน แต่ถ้าใครหยุดงานมาเที่ยว ก็ลองแวะมาดูฝูงค้างคาว อีกหนึ่งความสวยงามที่ธรรมชาติจัดสรรกันนะครับ จะมาค้างคืน หรือชั่วคราว คุณก็จะได้เห็นค้างคาว ในชั่วข้ามคืน และผมว่าคงเป็นคืนวันที่พิเศษมากๆเลยนะครับ
“โรงโอ่ง รัตนโกสินทร์ 1”
มาถึงโรงโอ่งเก่าแก่ของจังหวัดราชบุรีแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ต้องมาเยือนครับ เพราะที่นี่สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวราชบุรีได้เป็นอย่างดี ภายในโรงโอ่ง เราจะพบพี่ๆนักปั้นโอ่ง กำลังออกแบบลวดลายโอ่งตามความถนัดและเอกลักษณ์ของลายเส้นเฉพาะคน งานทุกชิ้นค่อยๆบรรจงสร้างด้วยความปราณีต สวยงาม การปั้นและสร้างลวดลายก็ว่ายากแล้ว แต่ก่อนจะมาขึ้นโครง ยากกว่าครับ เพราะดินที่นำมาปั้น บางชนิดต้องใช้เวลาหมักกันถึง 3 วันเลยครับ เบื้องหลังแห่งความสวยงาม ช่างผ่านเรื่องราวและขั้นตอนมากมายเหลือเกิน
การจะสร้างชิ้นงานคุณภาพสักชิ้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ แต่ก็ไม่ยากเกินไป หากคุณนำหัวใจใส่ลงไปในงาน ให้เวลา ให้ความละเอียดกับมัน อย่างที่ผมได้เรียนรู้จากที่นี่ ผมว่าทุกๆงานจะออกมาดีแน่นอนครับ ข้อคิดนี้ อาจช่วยได้ในเรื่องการทำงานของทุกๆท่านไม่มากก็น้อยนะครับ
“โบราณสถานเมืองคูบัว”
โบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองราชบุรี แหล่งรวมวัฒนธรรมประเพณี และสินค้าของดีประจำจังหวัด.. นี่คงเป็นคำจำกัดความที่ครบครันที่สุดกับสถานที่แห่งนี้ ชาวบ้านและพ่อค้าแม่ขาย นิยมมารวมตัวกันที่กาดวิถีชุมชนคูบัวเพื่อขายสินค้า และพบปะพูดคุยกัน โดยจะมีกิจกรรมการแสดงร้องรำทำเพลงบนเวที ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สลับสับเปลี่ยนกันอย่างรื่นเริง
สินค้าที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทอคูบัว และ งานสานต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย และราคาย่อมเยาว์ โดยกาดคูบัวนี้ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9:30-19:30 น. บริเวณกาดคูบัวยังมี พระพุทธสิริสุวรรณภูมิ วัดโขลงสุวรรณคีรี ให้เราได้เข้าไปสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยครับ
“วัดขนอนหนังใหญ่”
สถานที่จัดแสดงงานศาสตร์และศิลป์ชั้นสูงหลายแขนง อันเป็นมรดกโลกล้ำค่า ที่ถูกสร้างมาเนิ่นนานครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์เรือนไทยที่เก็บรวบรวมหนังใหญ่ไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้คนเข้ามาศึกษาดูงาน และระลึกถึงภูมิปัญญาและอัจฉริยภาพของบรรพบุรุษเรา การันตีความทรงคุณค่าด้วยรางวัลการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก ขึ้นเป็นมรดกวัฒนธรรมของโลก
เมื่อผมเข้ามายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากรายละเอียดถึงความสวยงามปราณีตของงานหนังใหญ่ และศิลปะทางด้านต่างๆแล้ว ผมยังสัมผัสได้ถึงรากเหง้าและแก่นแท้ของความเป็นชนชาติไทย ที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในชาติ เพราะกว่าจะเป็นสมบัติชาติในปัจจุบัน คงไม่ง่ายเลยนะครับ
บรรพบุรุษเราท่านต้องสร้างและผ่านอะไรมามากมายนัก ผมฉุกคิดและย้อนขึ้นมามองตนเอง ว่าอย่างตัวผมเองนี้สามารถทำอะไรให้กับชาติเราได้บ้าง ถ้าทุกท่านได้มาที่นี่ อาจจะได้รับความรู้สึกที่คล้ายกับผม หรืออาจเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราตระหนัก ในการเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ สร้างสรรค์สิ่งดีดีให้กับสังคมไทย ก็เป็นได้นะครับ
“ตลาดน้ำดำเนินสะดวก”
การค้าขายตอนนี้ อาจทำให้แม่ค้าที่นี่ ไม่สะดวกสบายใจนัก เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเงียบเหงาไม่เหมือนครั้งก่อนที่ผมเคยมาเยือน
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับสาวๆ ฝีพายดีประจำตลาด ป้าๆบอกว่า “คนไม่ค่อยมีเลยลูก” ประโยคบอกเล่าของป้า ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ทันทีว่า สิ่งที่ผมจะทำได้จากนี้คือช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ผู้คนที่นี่ ผมจึงรับปากอย่างมั่นใจว่า “เดี๋ยวผมจะชวนคนมาเที่ยวเยอะๆนะป้า” คำพูดของผม พอที่จะทำให้ป้าๆ ยิ้มได้บ้าง ณ ตอนนั้น
แต่ผมเชื่อครับ ว่ารอยยิ้มที่ยั่งยืน อาจเกิดจากคุณที่เข้ามาอ่าน และส่งต่อความสุขนี้อีกครั้ง ด้วยการชวนคนที่คุณรักไปเที่ยวจังหวัดราชบุรีกัน และแท้จริง ความสุขอาจเกิดจากการเติมเต็มกันและกัน ก็เป็นได้ครับ ไปเที่ยวกันนะครับ
ในการเที่ยวครั้งนี้ของผม นอกจากจะอยากชวนทุกท่านออกเดินทางไปด้วยกันแล้ว ผมคิดว่า การได้ออกเดินทางในแต่ละครั้งไม่ว่าใกล้หรือไกล จะทำให้ผมตระหนักรู้เสมอว่า บนโลกเรายังมีอะไรอีกมากมายที่เราต้องไปศึกษาหาคำตอบ และเราไม่ได้อยู่บนโลกเพียงลำพัง ในทุกๆทีจะได้กำลังใจ และการถูกเติมเต็มเสมอครับ
อิ่มเอมใจกับจังหวัดราชบุรีไปบ้างแล้ว สำหรับการเดินทางที่จะถึงในครั้งต่อไป ผมจะเก็บสิ่งดีดีมาฝากอีกนะครับ เหนือสิ่งอื่นใดคืออยากให้คุณเดินทางออกไปพบสิ่งนั้นด้วยตนเอง พร้อมหัวใจที่เป็นสุข
#FightingDuo
#Amazingไทยเท่ #เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เลี้ยวขวา เปิดโลกกว้างที่ ‘สระบุรี’
- เที่ยว ‘บางสะพาน’ ปลายสุดของ ‘ประจวบคีรีขันธ์’
- อยุธยา One Day Trip ยกก๊วนตะลุยกรุงเก่า กินกุ้งแม่น้ำสุดฟิน!