COVID-19

สธ. แจงยิบ ยันเที่ยวได้ทุกจังหวัด ที่พบผู้ป่วยโควิด 19 จากท่าขี้เหล็ก

สธ. แจงละเอียดยิบ ยันทุกจังหวัดที่พบผู้ป่วยโควิด 19 จากท่าขี้เหล็ก ท่องเที่ยวได้ วันนี้พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ใน ASQ

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สำหรับประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 14 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 1 ราย คือ หญิงไทยอายุ 26 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนด (ASQ) และเป็นผู้ที่มาจากต่างประเทศ 13 ราย

390176 e1607255811805

 

ในจำนวน 13 ราย ได้เข้าสู่ระบบการกักกันตามปกติ จำนวน 10 ราย จากเบลเยียม ยูเครน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา กาตาร์ สวีเดน ญี่ปุ่น เมียนมา และสหราชอาณาจักร ส่วนอีก 3 ราย เป็นการข้ามพรมแดนธรรมชาติมาจากเมียนมา คือ 1. ชายไทยอายุ 70 ปี เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลแม่สอด 2. หญิงไทยอายุ 26 ปี อาชีพพนักงานสถานบันเทิง เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลนครพิงค์ และ 3. หญิงไทยอายุ 26 ปี เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

ล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีจำนวน 23 ราย ได้แก่ เชียงใหม่ 5 ราย, เชียงราย 11 ราย, กทม. 3 ราย, ราชบุรี พิจิตร สิงห์บุรี และพะเยาจังหวัดละ 1 ราย และเพิ่มเติมที่จ.ตาก 2 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนด (ASQ) 1 ราย รวมเป็น 26 ราย

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน ต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ทำความสะอาดสถานที่ และสแกนไทยชนะ รวมถึงขอให้คนที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศกลับมาตามระบบ หรือผู้ที่เข้ามาแล้วขอให้มาแสดงตัว เพื่อรับการตรวจหาเชื้อและดูแลตามระบบ จะทำให้สถานการณ์ในช่วงปลายปีและปีใหม่ ที่เป็นบรรยากาศของการท่องเที่ยวในประเทศเดินหน้าต่อไปได้

นพ.ทวีศิลป์

สำหรับกรณีข่าวปลอมต่างๆ เช่น 10 จังหวัดที่ห้ามเดินทาง ขออย่าเชื่อถือและให้ติดตามข้อมูลจากทางราชการเท่านั้น

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ของไทยช่วงนี้ ส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลก ที่มีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เดินทางเข้ามามีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่การมีระบบกักกันโรคที่ดีจะช่วยป้องกันควบคุมการแพร่เชื้อได้

ส่วนผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ทำให้มีการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่ม 2 ราย ถือว่ายังไม่มาก แต่การสอบสวนโรคทำให้ได้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยเดินทางไปจุดไหน เวลาใด สัมผัสกับใครที่เรียกว่าไทม์ไลน์ มีประโยชน์อย่างมาก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในจุดนั้น ๆ เข้ามารับคำแนะนำการปฏิบัติตัว การตรวจหาเชื้อ ช่วยให้การควบคุมโรคง่ายขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินการอย่างเข้มแข็งของแต่ละจังหวัด

กรณีของผู้ป่วยที่มาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ขณะนี้ทุกจังหวัดอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ เช่น ที่เชียงใหม่มีผู้ป่วย 5 ราย ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ประชาชนร่วมมือดี มีความปลอดภัย หากไปเที่ยวสามารถไปได้ พะเยา พิจิตร ราชบุรี สิงห์บุรี มีผู้ป่วยจังหวัดละราย ตรวจผู้สัมผัสได้ครบ ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนเชียงรายพบผู้ป่วย 11 ราย เนื่องจากอยู่ฝั่งตรงข้ามของท่าขี้เหล็ก

นพ.โอภาส
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์

“ฝ่ายความมั่นคง พยายามควบคุม ผู้ลักลอบเข้ามาอย่างเข้มแข็ง ระยะหลังเป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันโรค แปลว่าดำเนินการได้ดี ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวล สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ ปัญหาการแพร่ระบาดโรคเป็นไปได้น้อย” นายแพทย์โอภาสกล่าว

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อในประเทศ 2 ราย ดังนี้

รายที่ 1 ผู้ป่วยหญิงอายุ 51 ปี จ.สิงห์บุรี มีผู้สัมผัสรวม 227 ราย ขณะนี้ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อ การสอบสวนจากผังที่นั่งของเที่ยวบิน DD8717 วันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา13.40 น.ผู้ป่วยเดินทางเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยราย กทม.อายุ 21 ปี และพิจิตร อายุ 25 ปี โดยรายกรุงเทพฯ และพิจิตรนั่งอยู่อยู่ที่ 44J และ 44K ส่วนรายสิงห์บุรีนั่งอยู่ที่ 52C ห่างกัน 8 แถวและไม่รู้จักกัน สวมหน้ากากบนเครื่องบินตลอด

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสนามบินแม่ฟ้าหลวง พบว่า ผู้ป่วยรายสิงห์บุรีอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ป่วยรายพิจิตร คาดว่าอาจมีช่วงเวลาหนึ่งที่ไปห้องน้ำในเวลาใกล้เคียงกัน แต่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบว่า จุดที่มีความเสี่ยงสูงสุดอยู่บริเวณใด

นพ.โสภณ
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร

รายที่ 2 ชายไทยอายุ 28 ปี จ.เชียงราย ที่ได้ไปงานฟาร์ม เฟสติวัล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และกรมควบคุมโรคได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อในผู้ที่สงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงและผู้ที่ไปเที่ยวในงานดังกล่าวในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จำนวนประมาณ 2,000 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม

สำหรับการติดเชื้อจากประเทศเมียนมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก จำนวน 2 ราย พบว่าลักลอบเข้ามาจาก จ.เมียวดี มาทางอ.แม่สอด จ.ตาก รายแรกเป็นชายชาวเมียนมาอายุ 43 ปี อาชีพนักธุรกิจ คาดว่าข้ามพรมแดนมาไทยวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ 3 ธันวาคม ขอรับการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลแม่สอด วันที่ 4 ธันวาคม ตรวจพบการติดเชื้อ ไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 14 ราย

อีกรายเป็นชายเมียนมาอายุ 70 ปี เข้ามาวันที่ 29 พฤศจิกายน ทางช่องทางธรรมชาติ เริ่มมีอาการป่วย วันที่ 4 ธันวาคม มีอาการเหนื่อยมากขึ้น จึงเรียกรถโรงพยาบาลเอกชนมารับ ระหว่างทางอาการไม่ดีขึ้น นำส่งโรงพยาบาลแม่สอด แพทย์ให้การรักษาส่งตรวจพบเชื้อ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo