Politics

ปัญหาระดับอนุบาล! ดอน ระบุ ต่างชาติไม่ห่วงม็อบไทย

 

“ดอน” ระบุ ต่างชาติไม่ได้ให้ความสนใจต่อ ม็อบไทย นัก ชี้ ม็อบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เทียบกับเมืองนอกแล้ว ก็เท่ากับระดับอนุบาล ต่างประเทศไม่มีใครพูดถึง หรือถาม 

วันนี้ (26 พ.ย.) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีท่าทีของต่างประเทศ มอง ม็อบไทย การชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยอย่างไร

ดอน

นายดอน กล่าวว่า ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเพิ่มเติม แต่โดยรวมแล้วคงไม่อยากให้เกิดเหตุความวุ่นวาย ไม่ว่าที่ใดก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เพราะท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ เป็นปัญหามากพออยู่แล้ว หลายประเทศคงไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาอีก

เมื่อถามว่า มีต่างประเทศแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในประเทศไทยหรือไม่ โดยเฉพาะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ นายดอน กล่าวว่า ไม่มีเลย เท่าที่รับฟังมาจากการพบปะ ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครถาม

ถ้ามีเขาจะมองในมุมที่เปรียบเทียบกับบ้านเขา สถานการณ์ในบ้านเรา ก็เท่ากับอนุบาลหรือประถม เพราะในต่างประเทศจะเจอบ่อย เขาต้องไล่ทุบไล่ตีกัน ซึ่งเขาไม่ได้มาห่วงกังวลบ้านเราในเรื่องนี้ และเราหวังว่าในบ้านเราจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ผ่านมามีประเทศไหนห้ามประชาชนเดินทางมาไทยหรือไม่ จากสถานการณ์การเมือง นายดอน กล่าวว่า ไม่มีการห้ามอะไรเป็นพิเศษ และปกติในช่วงนี้การเดินทางเข้ามาลำบากอยู่แล้ว มีแต่ในอดีตที่เคยมีการแจ้งให้ทราบว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ในบ้านเราอยู่

ม็อบไทย

‘บิ๊กตู่’ ลั่นเลิกโยนผิดให้รัฐบาล

ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มราษฏร ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ วานนี้ (25 พ.ย.) ว่า ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมายก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหนก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน

“สำหรับเหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุม ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมกำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่า อีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุมถ้าไปแล้วไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการลดความขัดแย้งตรงนี้ควรจะดำเนินการแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งประธานสภาดูแลอยู่แล้วในเรื่องนี้ รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วง เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งการแก้ไขตรงโน้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน อะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีส่วนร่วมตรงนั้น อย่าเอาปัญหานี้ไปใส่ปัญหานั้น เราเป็นฝ่ายบริหาร ตรงนั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราเพียงอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขเท่านั้นก็จบแล้ว สั่งใครได้ที่ไหนล่ะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วยแล้วกัน เพราะตนกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไปก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น

“ขอถามหน่อยว่า ได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิด ตนว่ามันควรตรงนั้นมากกว่า สื่อช่วยกันพูดหน่อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ม็อบไทย

ม็อบตีกันเอง เจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยว

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 27 ถึงเหตุความวุ่นวาย ที่เกิดขึ้นภายหลังการชุมนุมของกลุ่มราษฎรว่า เหตุการณ์ปะทะกันเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 พ.ย.) เกิดจากผู้ชุมนุมกันเอง จะให้ทำอย่างไร

พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบอยู่แล้ว จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย โดยเฉพาะสื่อมวลชน

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมมองว่า เมื่อเกิดเหตุปะทะของมวลชนที่เห็นต่าง กลับไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้ทันท่วงที ทั้งที่มีกองกำลังจำนวนมากนั้น พล.อ.ประวิตร ชี้แจงว่า เป็นเพราะคนร่วมชุมนุมจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึงที่เกิดเหตุ แต่ก็พยายามเข้าไปดูแลทุกพื้นที่ เพราะต้องการให้เกิดความสงบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกำชับหน่วยงานความมั่นคงให้เพิ่มการดูแลความปลอดภัยการชุมนุมให้มากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไปกำชับเรื่องอะไร ทุกฝ่ายก็ทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว จะไปบังคับได้อย่างไร ทุกคนรู้หน้าที่ 

ส่วนสถานการณ์ชุมนุมที่เป็นอยู่ยังควบคุมได้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ส่ายหัวปฏิเสธตอบคำถาม

‘บิ๊กตู่’ เสียใจ! สั่งสอบเหตุยิงกลางม็อบ ลั่นเลิกโยนผิดให้รัฐบาล

ม็อบไทย

อาชีวะ แจงเหตุรุนแรง

ทางด้าน เพจ ฟันเฟืองธนบุรี – Gear Of Red Thonburi โพสต์แถลงการณ์ เรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ณ พหลโยธิน โดยมีระบุว่า

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ในคืนของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 หลังจากการชุมนุมได้ถูกยุติลง ทางกลุ่มฟันเฟืองทุกที่และกลุ่มอาชีวะกลุ่มอื่น กำลังรวมตัวเพื่อที่จะกลับที่พัก ได้มีเหตุความรุนแรงจากบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่ก่อเหตุสร้างความรุนแรง โดยใช้อาวุธร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุให้เพื่อนเราหลายท่านได้รับบาดเจ็บ และหนึ่งในเพื่อนฟันเฟืองประชาธิปไตยได้ถูกยิง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน จากคมกระสุนปืนจากผู้สร้างสถานการณ์

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีความชัดเจนจากหลักฐานว่า มีกลุ่มคนจากฝ่ายที่ต้องการใช้ความรุนแรง กับกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยได้แฝงตัวเข้ามา ในกลุ่มอาชีวะกลุ่มหนึ่ง เพื่อก่อความไม่สงบ สร้างบรรยากาศความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ

ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย มีเพียงมือเปล่า ไม่มีอาวุธร้ายแรงใด ถูกกระทำอย่างโหดร้ายอุกอาจ แต่เราฟันเฟืองประชาธิปไตย จะยืนหยัดในการต่อสู้ อย่างสันติปราศจากอาวุธต่อไป และขอให้ผู้ที่สร้างสถานการณ์หรือมีส่วนรู้เห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้ลดทอนความเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางประชาธิปไตยหากแต่ยังสร้างให้เรามีความเหนียวแน่นกันมากยิ่งขึ้น และเราจะดำเนินการไปด้วยกันเพื่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับความเป็นธรรม ทั้งทางกฎหมายและภาคสังคม

“เราจะไม่ยินยอมให้ความรุนแรงทำร้ายเรา เราจะสู้กับความรุนแรงด้วยสันติวิธี”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo