สรุปแถลง ปุ้ย-ณะ TPN ปมสัญญา ฟ้าใส ลั่นถ้าคิดว่ามีคุณสมบัติมารับมงได้เลย

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 18 พฤศจิกายน 2563

ยังคงเป็นประเด็นให้เหล่าแฟนคลับนางงามได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับดราม่าระหว่าง “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” Miss Universe Thailand 2019 และ Top 5 Miss Universe 2019 กับทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่มีเรื่องของสัญญาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ถือลิขสิทธิ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ – ผู้บริหาร บริษัท TPN 2018 จำกัด พร้อมด้วยทนายความ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชน พร้อมไล่ไทม์ไลน์การทำสัญญาแบบละเอียดยิบ และอนุญาตให้ฟ้าใสเปิดสัญญาต่อสาธารณะโดยไม่เอาผิด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ก่อนที่ ฟ้าใส ปวีณสุดา พร้อมด้วย เอส อนุสิทธิ์ ผู้จัดการส่วนตัว และทนายความ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดใจถึงกรณีดราม่าดังกล่าว พร้อมเปิดไทม์ไลน์การเซ็นสัญญาโต้กลับทางทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

-ฟ้าใสยืนยันว่า ทางกองประกวดขอเปลี่ยนสัญญา ฉบับที่ 2 ที่แอตแลนตา และฉบับที่ 3 ที่เมืองไทย หลังจากฟ้าใสประกวดมิสยูนิเวิร์สเสร็จเรียบร้อย

-ทนายของอีกฝั่งแจ้งว่าฟ้าใสบ่ายเบียงไม่เซ็นสัญญามาโดยตลอด ฟ้าใสยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากฉบับที่ 1 ที่ได้เซ็นไปแล้ว ระบุถึงเงินรางวัล ระยะเวลาในสัญญา และบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งไว้อย่างครบถ้วน แต่ในฉบับที่ 2 ทางทีพีเอ็นเปลี่ยนแปลงเนื้อหาและเงื่อนไขที่ไม่ตรงกับฉบับที่ 1 ฟ้าใสจึงทักท้วงทางทีพีเอ็นมาว่าเนื้อหาไม่ตรงกับฉบับที่ 1

-วันที่ 6 มิ.ย. 2562 ฟ้าใสเซ็นสัญญาฉบับที่ 1 กับทีพีเอ็น ขณะร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 โดยในสัญญา ระบุถึงรางวัล และระยะเวลาผูกพันสัญญากี่ปี การแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับทางกองประกวด และเงื่อนไขการทำงานบทบาทหน้าที่ของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้เข้าร่วมประกวดรอบ 60 คนทุกคน ต้องเซ็นสัญญาฉบับนี้

-วันที่ 17 ก.ค.2562 ทีพีเอ็นแถลงข่าวว่า รองทั้ง 4 ได้เข้ามาเซ็นสัญญายกเว้นฟ้าใส ฟ้าใสยืนยันว่า ทางทีพีเอ็นไม่เคยแจ้ง และไม่เคยเรียกฟ้าใสเข้าไปเซ็นสัญญาเลย และสิ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันคือ ตารางงานของกองประกวด ฟ้าใสต้องทำตั้งแต่ 8 โมงครึ่งถึง 3 ทุ่ม ซึ่งนอกจากตารางาน ยังมีรูปที่ฟ้าใสทำงานวันนั้นด้วย

ล่าสุด ทางฝั่งของ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN) ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ นำโดย ปุ้ย – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณะ – ณรงค์ เลิศกิตศิริ ในฐานะ National Director ฯลฯ ได้จัดแถลงการณ์อีกครั้ง ซึ่งทางเพจดัง เมืองมาย๊ามายา ได้สรุปเอาไว้ว่า

“สรุปดราม่า “TPN – ฟ้าใส”

“ปุ้ย-ณะ” TPN แถลงโต้กลับฟ้าใส แจงมีการเรียกร้องเกินรับได้

ยินดีคืนมงกุฎให้หากคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติมากพอ

1. สัญญาฉบับแรกต้องเซ็นทั้ง 60 คน ซึ่งฉบับนี้มีการระบุชัดเจนว่า ถ้าคนที่ได้ตำแหน่งทั้ง 5 คน ต้องมีการเซ็นแยกอีกคนละฉบับ ซึ่งจะเป็นสัญญาที่มีรายละเอียดชัดเจนว่าแต่ละคน จะต้องทำอะไร และได้รางวัลอะไรไปบ้าง

2. พูดถึงเรื่องสัญญาที่ต้องเซ็นก่อนไปประกวด Miss Universe 2019 ที่แอตแลนต้า สหรัฐฯ ซึ่งสัญญาตัวนี้ ต้องให้ฟ้าใสเซ็น เพื่อที่จะเอาไปให้กองแม่ เพื่อยืนันว่า ฟ้าใสคือตัวแทนจากประเทศไทยจริง ๆ

3. TPN ยืนยันว่าได้ส่งสัญญาตัวนี้ให้ฟ้าใสดูตลอด แต่มีการทำหายหลายครั้ง และยืนยันว่ามีพยานเห็นวาฟ้าใสได้เคยเห็นและบอกว่าจะเอากลับไปปรึกาผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าไม่พอใจข้อไหน ก็สามารถมาแจ้งทางเราได้

4. แต่ในเมื่อสัญญาตัวนี้ไม่ได้เซ็นแล้วทำไม ฟ้าใส ยังได้ประกวดที่ แอตแลนต้าได้ / พี่ปุ้ย ก็ชี้แจงว่า ทางเราได้ไปชี้แจงและยืนยันด้วยตัวเองว่าฟ้าใสคือนางงามจากประเทศไทยจริง มีภาพมีคลิปยืนยัน

5. เมื่อถึงแอตแลนต้าแล้ว ทางเราก็รอว่าน้องจะเซ็นให้เมื่อไหร่ แต่จะไม่ไปพยายามกดดัน เพราะเข้าใจว่าน้องยุ่งๆกับการเก็บตัว

6. จนมีการถามปถามมา พบว่าสัญญาตัวนี้ ฟ้าใสไม่ได้เอาไปที่แอตแลนต้าด้วย ทาง TPN ก็เลยให้ทีมงานปริ้นมาใหม่ แล้วแม่ฟ้าใสก็ได้ขอดู

7. เมื่อแม่ฟ้าใสอ่านแล้ว ก็ไม่ ok ในบางข้อ ก็เลยมีการแก้รายละเอียดในบางข้อด้วยลายมือ เช่น ข้อของการทำงานการกุศล ในสัญญาระบุว่า ฟ้าใส ต้องทำงานการกุศล “ไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง” แต่คุณแม่ขอแก้ว่า ขอทำงานการกุศล “ไม่เกิน 12 ครั้ง” ซึ่งทาง TPN ก็ยอในข้อนี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีการเซ็น

8. ปุ้ย ** ทางเราก็ตามมาตลอด แม่ก็ยังพูดเลยว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกลับถึงไทย น้องจะเซ็นให้ด้วยตัวของน้องเอง

9. จากนั้นวันที่ 15 มกราคม 63 ฟ้าใสก้เข้ามาพร้อมคุณลุงคุรป้า ทาง TPN ก็เอาตัวสัญญาที่คุณแม่แก้ไขเพิ่มเติมมาให้เซ็น ทางน้องก็บอกว่าขอเอากลับไปอ่านที่บ้านก่อนสัก 2-3 วัน

10. เวลาผ่านไป 3 4 5 วัน ก็ยังไม่มีการเซ็น ทางบริษัท TPN ก็เลยทำจดหมายแล้วส่งไปให้กับมือ โดยแจ้งว่าทางเราได้ติดตามน้องให้มาเซ็นสัญญาตลอด จึงอยากจะเชิญเข้ามาเซ็นสัญญาแล้วรับเงินให้เรียบร้อย

11. ในที่สุดวันที่ 21 กพ. 63 ฟ้าใส ก็มาพร้อมกับคุณลุงและทนายคนเก่า แต่น้องมาพร้อมกับสัญญาฉบับใหม่ที่น้องทำขึ้นมา ซึ่งทางเรารู้สึกว่ามีบ้างข้อที่รับไม่ได้ เช่น ข้อทำงานการกุศลที่ระบุว่าขอทำงานการกุศล “ไม่เกิน 12 ครั้ง” อันนี้รับได้ แต่มีระบุเพิ่มเติมว่า ถ้างานการกุศลเกินครั้งที่ 12 ขึ้นไป งานๆนั้น จะต้องได้ค่าจ้าง 15,000 บาท / ครั้ง ถ้าเป็นงานในกทม. และ 30,000 บาท/ครั้ง ถ้าเป็นงาน ตจว. และมีเวลาในการทำงานไม่เกิน 3 ชม. ตรงนี้เรารับไม่ได้

12. อีกข้อที่รับไม่ได้คือ การเข้าร่วมเวิร์กช็อปต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของฟ้าใสเท่านั้น พออ่านแล้ว ทางเราไม่สะดวกใจ ก็เลยไม่เซ็นในสัญญาฉบับนี้ ก็เลยคิดว่า น้องไม่น่าจะมีความสุข ที่จะอยู่กับเรา

13. จึงเป็นที่มาของสัญญาฉบับบันทึกข้อตกลงกันในวันนั้นเลย โดยในฉบับนี้ มีการระบุชัดๆหลายข้อเช่น
– ตัวนางงามตกลงที่จะไม่ทำสัญญาในฐานะของ MUT 2019 และในฐานะของนักแสดงของบริษัทอีกต่อไป
– นางงามระบุขอมาเดินอำลาตำแหน่ง แต่ทางพี่ก็ได้ระบุไปว่า ทางเราก็มีสิทธิ์จะเชิญหรือไม่เชิญก็ได้ แต่สุดท้ายเราก็เชิญมา แถมยังมีการให้ถ่ายรูปลงสูจิบัตรอีกด้วย
– ตกลงให้เงินรางวัลไปประมาณ 500,000 บาท และสายสะพาย ส่วน “มงกุฎ” และของรางวัลอื่น ๆ ที่เคยทำไว้ในข้อตกลงแรกๆนั้น จะถูกยกเลิกทั้งสิ้น และทางเราก็ยินดีให้น้องทำมงกุฎขึ้นมาเองได้

14. ปิดท้ายการชี้แจวในวันนี้ “ปุ้ย” TPN บอกใครจะเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับความสบายใจของทุกคน ย้ำปัญหาแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับ “อะแมนด้า” MUT 2020 แน่นอน เพราะมีการเซ็นสัญญากันแล้วเรียบร้อย

15. ปุ้ย TPN แจงไม่สนคนมองว่าจัวเองอ่อนหัดในเรื่องการจัดการประกวดนางงาม เพราะเวลาไป ตปท.ก็มีแต่คนชมว่าจัดการประกวดได้ดี

16. ฝากถึงฟ้าใส เราไม่เคยมีความไม่ดีกับน้อง จากนี้ไปให้ทุกคนไปทำตามเป้าหมายของตัวเองที่ตั้งใจเอาไว้ ต่างคนต่างไปพัฒนาตัวเองให้ไปสู่ในจุดที่ดีที่สุด เพราะเรายังต้องเจอกันในอีกหลายๆงาน

17. ปิดท้ายการแถลง “ปุ้ย-ณะ” TPN นำ “มงกุฎ” ขง MUT 2019 ออกมา พร้อมกล่าวว่า ถ้าน้อง(ฟ้าใส) คิดว่าน้องมีคุณสมบัติที่มีความชอบธรรมในการที่จะสวมใส่มงกุฎนี้ ให้น้องติดต่อมาที่ TPN ได้ตลอดเวลา เพื่อมารับมงกุฎไป โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น (จบ)”