Finance

3 เหตุผลทำไมทองคำ ‘ขาขึ้น’ ยาวถึงปี 64 โกลแมนแซคส์ชี้เป้าที่ 2,300 ดอลลาร์

ราคาทอง แนวโน้มวิ่งปีหน้า โกลแมน แซคส์ คาด ราคาทองโลกขึ้นกว่า 20% ในปีนี้ แต่ดิ่งลงหลุด 1,900 ดอลลาร์ในช่วงหลังการเลือกตั้งสหรัฐและข่าววัคซีนโควิด-19 แต่กำลังเริ่มตั้งหลักใหม่ขยับขึ้นในปีหน้า ทำให้ภาวะกระทิงยังอยู่กับทองคำ

โกลแมน แซคส์ ระบุว่าการอ่อนตัวของราคาทองคำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากการปรับพอร์ตลงทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปเข้าสู่ตลาดหุ้น ซึ่งนักลงทุนอาจมองว่าเริ่มฟื้นตัวในระยะยาว

ราคาทองคำโลกปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 16.90 ดอลลาร์ หรือ 0.90% อยู่ที่ 1,889.50 ดอลลาร์/ออนซ์

โกลแมน แซคส์ มองว่าในระยะสั้น ราคาทองคำยังแกว่งตัว ซึ่งขณะนี้ยังยากคาดการณ์ว่าทิศทางราคาทองคำจะไปทางไหน แต่ในระยะยาวราคาทองคำอาจได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ยังแข็งแกร่ง โดยในปีหน้ามี 3 เหตุผลว่าทำไมราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

1. คาดการณ์เงินเฟ้อแนวโน้มสูงขึ้น

“ในวัฏจักรนี้ คาดว่าตลาดทองคำคล้ายกับช่วงหลังวิกฤติการเงินปี 2008 เติบโตอย่างแข็งแกร่งใช่วงการฟื้นตัวของวัฏจักรเศรษฐกิจ เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางทองคำ

โกลแมน แซคส์ คาดว่าเงินเฟ้อในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 3% ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้จะมีการใช้จ่ายงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ประกอบกับสถานะการเงินของภาคครัวเรือนดีกว่าช่วงหลังวิกฤติปี 2008 และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังไม่ปรับนโยบายแม้เงินเฟ้อจะทะยานสูงขึ้น

สิ่งนี้จะทำให้ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อจะสูงในระยะยาว และจะลงทุนในทองคำมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง

2. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า

โกลแมน แซคส์ คาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าในปี 2021 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนราคาทองคำให้ขยับสูงขึ้น เนื่องจากการซื้อทองคำด้วยเงินสกุลอื่นได้ในราคาถูกลง ซึ่งทิศทางราคาทองคำสัมพันธ์อย่างมากต่อทิศทางของเงินดอลลาร์

3. ความต้องการรายย่อยในตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัว

ความต้องการทองคำในตลาดเกิดใหม่ขยับขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ช่วยหนุนราคาทองคำขยับขึ้น โดยเฉพาะความต้องการทองคำจากจีนและอินเดีย

ชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และข่าววัคซีนโควิด-19 ช่วยหนุนค่าเงินในตลาดเกิดใหม่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าลดลง เป็นปัจจัยหนุนกำลังซื้อทองคำ

โกลแมน แซคส์ มองว่าราคาทองคำยังแข็งแกร่ง เป้าหมายที่ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์ มีโอกาสขึ้นอีกกว่า 20% จากระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo