Politics

‘บิ๊กตู่’ ส่งสาส์นแสดงความยินดี ‘โจ ไบเดน’ จ่อกระชับสัมพันธ์แนบแน่น!

พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสาส์นแสดงความยินดี “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ พร้อมจ่อกระชับสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไม่รู้ม็อบขอลี้ภัยทางการเมือง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ นายโจ ไบเดน เป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ว่า ตนได้ส่งสาส์น แสดงความยินดีกับนายโจ ไบเดน แล้ว โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เรามีมายาวนานกว่า 200 ปี และคาดว่า จะกระชับความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น มีสายสัมพันธ์ และ มิตรไมตรีแบบในอดีตเสมอมา ตนได้สั่งเตรียมการไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว

โดย กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องดำเนินการหลายเรื่องด้วยกัน ในการที่จะมีการหารือกันกับรัฐบาลใหม่ ของสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกัน เราต้องเตรียมความพร้อมของเรา ไว้ด้วยหลายๆ เรื่อง แม้กระทั่งจะมีนโยบายต่างๆ ที่มันเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม เราก็ต้องปรับตัว ให้สร้างสมดุล ในภูมิภาคของเราให้ได้ คงไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่รวมถึงอาเซียนด้วย ก็หวังเป็นเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านั้น จะสืบสานกันต่อไปในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์

อย่างไรก็ตาม วันนี้ถึงแม้เรา จะไม่มีการเยี่ยมเยือนในต่างประเทศ หรือ ต่างประเทศมาเยือนเรามากนัก เพราะติดปัญหาโควิด-19 แต่ตนได้มีการพูดคุย กับผู้นำประเทศต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์ และ การประชุมทางไกลบ้าง และ ในสัปดาห์หน้า ตนจะประชุมอาเซียน ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน โดยมีเวียดนาม เป็นประธาน และ เจ้าภาพการประชุมในปีนี้ คงจะได้ข้อสรุปหลายอย่างด้วยกัน ในการดำเนินการครั้งนี้ และ รอการลงนามร่วมกันในเรื่องอาร์เซปที่น่าจะสำเร็จในปีนี้ เพราะเราได้เริ่มต้นจากการประชุมครั้งที่แล้ว

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ 4 แกนนำ กลุ่มผู้ชุมนุมขอลี้ภัยทางการเมืองในสหรัฐ มีข้อเท็จจริงอย่างไร ว่า เรื่องการลี้ภัย ตนยังไม่ทราบ แต่เห็นเขียนในโซเชียล ซึ่งไม่รู้ใครเขียน จึงยังไม่ทราบ แต่การจะลี้ภัยนั้นก็ต้องมีเหตุผลในการขอลี้ภัย ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปนายกรัฐมนตรีคิดว่า จะใช้วิธีใดในการแก้ไขปัญหา และสร้างความปรองดองอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยต้องไปชี้นำว่า จะต้องแก้ไขกันอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกอยู่แล้ว ถ้าทุกคนจริงใจ และ มาช่วยกันคิดและทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้ และเป็นไปตามขั้นตอน กลไก และกฎหมายที่มีอยู่

“เราก็แก้ไขกันด้วยกฎหมาย เพราะเราอยู่กันด้วยกฎหมาย ทุกประเทศถ้าไม่มีกฎหมาย ก็อยู่กันไม่ได้ ประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมายเป็นหลัก เพื่อที่จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน เราต้องดำเนินการ โดยหลักของความถูกต้อง บนหลักของกฎหมาย กติกาของบ้านเมือง แล้วต้องเป็นวิธีปฏิบัติที่คนส่วนใหญ่ ของประเทศยอมรับได้ อย่าลืมว่า เรามีประชากรเกือบ 70 ล้านคน ผมเองก็สนับสนุนทุกทาง ที่ใครจะเสนอหนทางออกให้กับประเทศไทย ในหลากหลายความคิด ผมยืนยันว่า ผมรับฟังทุกฝ่ายแล้วยังคิดว่า การร่วมพูดคุยอย่างเป็นทางการที่ดีที่สุด ให้กับทุกปัญหาเสมอไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อยากพูดกับพวกเราซึ่งต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผมพยายามทุ่มเท สติปัญญาและเวลาให้กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ร่วมกับฝ่ายเศรษฐกิจทุกกระทรวงทั้งในคณะรัฐมนตรีด้วย หลายอย่างก็คล้ายกับทุกประเทศไม่มีความแตกต่างในเรื่องที่เกิดปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 3/2563 ว่า เป็นการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่ครอบคลุมเรื่องการปฏิรูปด้วย จากแผนแม่บทที่เรามีอยู่แล้วเดิม จำเป็นต้องปรับแผนแม่บทในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ เพื่อให้ตอบสนองสถานการณ์โควิด -19 ไปด้วยและมีการพูดคุยในเรื่องโครงการต่างๆทั้งโครงการที่ top down หรือโครงการ bottom up ขึ้นมาว่าจะจัดสรรงบประมาณอย่างไร ที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนรัฐบาลนั้นจำเป็นต้องทำโครงสร้างพื้นที่ฐานให้เกิดความเท่าเทียมในทุกพื้นที่ให้ได้ และบางส่วนเป็นเรื่องกิจกรรมในพื้นที่ ที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการคัดกรองโครงการต่างๆ

ทั้งนี้ ขณะนี้มีโครงการประมาณ 5 หมื่นกว่าโครงการ ฉะนั้นทุกปีรายจ่ายประจำ รายจ่ายที่จะลงไปสู่กลุ่มต่างๆในประชาชนของเรามีหลายกระทรวงด้วยกัน ซึ่งวันนี้ต้องเอาทั้งหมดมาบูรณาการ และตรงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเรามีการตั้งคณะกรรมการของจังหวัดอยู่แล้ว และ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเอาหลายส่วน มาพิจารณาในโครงการหลายส่วนที่เสนอขึ้นมาให้สอดคล้องต้องกันไม่ซ้ำซ้อน และโปร่งใส

“วันนี้ก็มีเรื่องการใช้ระบบที่เข้าถึงโครงการทุกโครงการของรัฐบาล ที่ประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ ดังนั้นต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน และมีมติในระดับพื้นที่ด้วย ซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ฉะนั้นมติเสียงของคนส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น การประชุมวันนี้รัฐบาลได้ลงรายละเอียดปลีกย่อยไปมากมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo