หุ้น ในสัปดาห์หน้า มีแนวรับที่ 1,185 จุด แนวต้าน 1,205 จุด จับตาการเมืองในประเทศ-การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์
หุ้นไทย ร่วงลงหลุดระดับ 1,200 จุด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,194.95 จุด ลดลง 1.54% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,193.66 ล้านบาท ลดลง 15.90% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.34% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 309.56 จุด
หุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ ทิศทางเดียวกับหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้หลายประเทศต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งจะกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงจะออกไม่ทันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมืองในประเทศเป็นอีกปัจจัยที่กดดันบรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ขณะที่ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมากที่สุดในสัปดาห์นี้ ตามทิศทางราคาน้ำมันโลก
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,185 และ 1,170 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,205 และ 1,215 จุดตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. ของไทย
นอกจากนี้ ต้องติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผลการประชุมเฟดและความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเด็น BREXIT และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีนและยูโรโซน
เงินบาท ขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ แต่ภาพรวมการเคลื่อนไหวยังค่อนข้างแคบตลอดสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันหลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนต.ค. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
กรอบการแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนในช่วงใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และปัจจัยทางการเมืองของไทยอย่างใกล้ชิด
ในวันศุกร์ (30 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.16 เทียบกับระดับ 31.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (22 ต.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามดัชนี PMI เดือนต.ค. ของจีน ยุโรป และอังกฤษด้วยเช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
‘หุ้นสหรัฐ’ ร่วงหนักรอบ 6 เดือน กังวล ‘โควิด-เลือกตั้งประธานาธิบดี’
รีวิว ‘TISCO’ หุ้นธนาคารตัวจี๊ดปันผลสูง!
เฮ! ‘ศาลรธน.’ วินิจฉัยปมถือหุ้น 29 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลรอดหมด