Economics

เอกชนหวั่นการเมืองในประเทศ-โควิด แม้ดัชนีเชื่อมั่นขยับขึ้นต่อเนื่อง!

ส.อ.ท.เผย ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 85.2 ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ด้านเอกชนหวั่นสถานการณ์การเมืองในประเทศ และห่วง “โควิด” ระบาดรอบสอง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2563 อยู่ที่ระดับ 85.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 84.0 ในเดือนสิงหาคม 2563 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5

สุพันธ์19101

โดยมีปัจจัยบวก จากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในช่วงที่ผ่านมาช่วยให้กำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น

สะท้อนจากดัชนียอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณ การผลิต และผลประกอบการ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในสินค้าคงทนและไม่คงทน ขณะที่ภาคการส่งออกและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดีภายหลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศคู่ค้านำเข้าสินค้าจากไทยได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,301 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนกันยายน 2563 พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่

1. สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ 55.3%,
2. ราคาน้ำมัน 40.4%
3. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 36.8%

ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก 65.7% และอัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ 42.4%

4. info ดัชนีเดือน ก.ย.63 thai

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 93.3 จากระดับ 94.5 ในเดือนสิงหาคม 2563 ทั้งนี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าภายใต้ความกังวลต่อการระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ หลายประเทศมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของไทยในระยะต่อไป นอกจากนี้ การสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ในเดือนตุลาคมอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจและกำลังซื้อในประเทศ

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

1. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณผ่านโครงการลงทุนภาครัฐทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
2. ออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภายหลังการสิ้นสุดมาตรการพัก
ชำระหนี้ในเดือนตุลาคม
3. สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่ผลิตจากผู้ประกอบการในประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo