Politics

‘หญิงหน่อย’ โวยโกงบัตรทอง! เดือดร้อนถ้วนหน้า ต้องแก้ไขเร่งด่วน

โกงบัตรทอง “หญิงหน่อย” โวย! ประชาชนกว่า 8 แสนคนในกทม.เดือดร้อนถ้วนหน้า เซ็งคุณภาพการรักษาพยาบาลตกต่ำลง และปล่อยให้มีการทุจริตกันอย่างมโหฬาร ลั่นต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ระบุว่า #โกงบัตรทอง ทำให้โครงการ “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” กลายเป็น “ความเดือดร้อนถ้วนหน้า” ของประชาชนกว่า 800,000 คนในกรุงเทพ

เมื่อเริ่มก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ดร.ทักษิณ ชินวัตร และคณะซึ่งรวมถึงดิฉันด้วย ได้เดินทางไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

ปัญหาที่เราได้พบในทุกแห่ง ที่เราเยี่ยมคือ ความทุกข์จากความเจ็บป่วยแล้วไม่มีเงินมารักษาตัวเอง หรือพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เราได้พบผู้สูงอายุจำนวนมากที่ป่วยหนักอยู่ที่บ้าน เมื่อเราถามว่าทำไมไม่ไปรักษาตัว คำตอบที่ได้คือไม่มีเงินไปรักษา เพราะถ้าจะไปรักษาที่รพ. ลูกหลานก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามารักษา สงสารลูกหลานที่จะต้องเป็นหนี้ อายุมากแล้วยอมตายไปดีกว่า

โกงบัตรทอง21963

เราสะเทือนใจทุกครั้ง ที่ได้ฟังคำตอบเช่นนี้ และเกิดคำถามในใจว่าทำไม “คนจนที่เจ็บไข้ได้ป่วย จึงต้องนอนรอความตายเท่านั้น” ทั้งที่เขาก็เป็นคนเหมือนกัน แต่ทำไมโอกาสในการรักษาชีวิตจึงแตกต่างกันระหว่างคนรวย และคนจน

ดังนั้นเมื่อ นพ.สงวน นิตยารัมพงศ์ ได้นำหลักการการประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาเสนอแก่ ดร. ทักษิณ ท่านจึงให้ความสนใจศึกษาข้อมูล, ความเป็นไปได้อย่างจริงจัง และตัดสินใจผลักดันจนเป็นนโยบายที่พรรคไทยรักไทยได้ประกาศให้คำมั่นสัญญาในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ว่าหากไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะทำโครงการ #30บาทรักษาทุกโรค ทันที

เมื่อเราชนะการเลือกตั้ง ดร.ทักษิณ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งแรกหรือนโยบายแรกที่สั่งให้ลงมือทำทันที คือ “โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค” เพื่อให้สิทธิประชาชนในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่าง “ทัดเทียม” และ “ทั่วถึง” ทุกคน ไม่ว่าประชาชนคนนั้นจะเป็นคนรวยหรือคนจนก็ตาม

และดิฉันก็โชคดี ที่นายกทักษิณได้ให้ความไว้วางใจ มอบหมายให้เป็นผู้ทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ดิฉันยังจำคำพูดของท่านได้อย่างแม่นยำ ในวันที่ท่านมอบให้ดิฉันรับผิดชอบโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ท่านพูดว่า “รู้ว่าโครงการนี้ทำยาก แต่อยากให้เสียสละทุ่มเททำให้สำเร็จ เพราะโครงการนี้จะช่วยชีวิตคนไทยทั่วประเทศ จะช่วยทำให้สุขภาพคนไทยได้ดีขึ้น จะช่วยลดภาระหนี้สินให้คนจน และที่สำคัญจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้สังคมไทย”

ด้วยผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ และเก่งการบริการเศรษฐกิจอย่างนายกทักษิณ และด้วยความเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จึงได้เริ่มต้นได้เมื่อ 19 ปีที่แล้ว

และถือเป็นโครงการที่ได้ช่วยพี่น้องชาวไทยเป็นจำนวนมากให้มีโอกาสรอดชีวิตจากการเจ็บป่วย ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพทัดเทียมกัน

แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้นำทางการเมืองในช่วงหลัง ไม่มีความเข้าใจในหลักการของโครงการอย่างแท้จริง จึงทำให้ระบบการบริหารจัดการล้มเหลว กลับไปรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง แทนที่จะกระจายอำนาจ และกระจายงบประมาณไปยังรพ.โดยตรง จนทำให้เกิดปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ ทั้งที่ใช้งบประมาณมากขึ้น

แต่คุณภาพการรักษาพยาบาลตกต่ำลง และในที่สุดปล่อยให้มีการทุจริตกันอย่างมโหฬาร ในหลายระดับ ต่อเนื่องมาหลายปี

ที่ ส.ส. ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล เป็นเพียงปลายทาง

ซึ่งพวกเราจะไม่ปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์บนความเป็นความตาย และบนชีวิตของประชาชนอีกต่อไป

ผู้นำต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ทำให้โครงการ #บัตรทอง เกิดความล้มเหลวอย่างในปัจจุบัน จนทำให้ทั้งผู้ให้บริการ คือ แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต้องมีความทุกข์และประสบปัญหาในการให้บริการ และทำให้ประชาชนผู้รับบริการไม่ได้รับบริการที่ได้คุณภาพที่ดีพอ

แต่ที่จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ คือ การแก้ไขปัญหาผลพวงจากการปล่อยประละเลยให้มีการทุจริต จนทำให้ประชาชนกว่า 800,000 คนในกรุงเทพต้องประสบปัญหา ไม่มีที่รักษาพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยเรื้อรัง ที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องกำลังเผชิญกับปัญหา อย่างหนัก ทั้งการไม่มีสถานพยาบาลรองรับ หรือให้ย้ายไปใช้ โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีความแออัดอยู่แล้ว ทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้ ไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงทีหรือต้องรอคิวเป็นเวลานาน

การแก้ปัญหาแบบไม่รับผิดชอบ โดยไม่มีแผนรองรับได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 800,000 คนในกรุงเทพ และได้สร้างปัญหาให้กับรพ. และแพทย์พยาบาลที่ต้องรองรับผู้ป่วยที่ถูกโอนย้ายมา จนที่เกินกว่าศักยภาพของโรงพยาบาลจะรับได้

เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK