นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่าภายใต้กลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งและผลตอบแทนที่ดีให้กับกลุ่มดุสิตธานีในระยะยาว มุ่งดำเนินการ 3 ด้าน คือ การขยายการเติบโตของธุรกิจหลัก, การสร้างความสมดุลของธุรกิจ ทั้งการลงทุนโรงแรมและการรับบริหาร และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้านอื่นๆ เช่นการลงทุนในสตาร์ทอัพ ธุรกิจอาหาร
ด้านการขยายธุรกิจหลักปีนี้ ได้เปิดตัวแบรนด์กลุ่มโรงแรมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘อาศัย’ (ASAI) ในตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ ที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นคนชื่นชอบการเดินทาง ใช้ชีวิตแบบไม่ยึดติดกับกรอบแบบเดิมๆ แสวงหาประสบการณ์เที่ยวแบบคนในท้องถิ่น
จากผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า นักเดินทางในกลุ่มไลฟ์สไตล์มิลเลนเนียล 35% ต้องการพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีการตกแต่งและใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างดี เพราะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความคุ้มค่าของราคา ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวแบบคนท้องที่ที่รู้จักถิ่นนั้นจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ “อาศัย”
แบรนด์“อาศัย”หนุนเป้าหมายตามแผน
กลุ่มดุสิตธานี กำลังอยู่ในช่วงการเติบโตที่สำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่เป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ดุสิต ได้แก่ ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา ที่ครอบคลุมตลาดทั้งระดับบนและระดับกลาง จำนวน 27 แห่ง และเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 70 แห่งทั่วโลกภายใน 4 ปีข้างหน้า เฉพาะปีนี้ คาดเปิดเพิ่ม 11 แห่ง
สำหรับ “อาศัย”เป็นแบรนด์ใหม่ ที่จะมาเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่กว้างกว่าเดิม และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนดุสิตสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยเชื่อว่า แบรนด์อาศัย จะเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้เพิ่มให้กับกลุ่มดุสิตธานี
นอกจากนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาแบรนด์ในกลุ่ม “บัดเจ็ท โฮเทล” เข้ามาเสริมพอร์ตให้ครอบคลุมทุกตลาด รวมทั้งธุรกิจ Cruise/Vacation Club
เล็งซื้อโรงแรมสร้างรายได้แทนปิด‘ดุสิตธานี’
สำหรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งปี 2561 หลังจากนั้นจะปิดบริการ เพื่อก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูส ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท ที่ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยในส่วนของโรงแรม คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่
นางศุภจี กล่าวว่าในช่วงที่ดำเนินการก่อสร้างโครงการมิกซ์ยูส บริษัทมองโอกาสสร้างรายได้ต่อเนื่องจากการเข้าไปซื้อโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะดำเนินการซื้อได้ในปีนี้ นอกจากนี้ยังมองการลงทุนโรงแรมเพิ่มขึ้น เพื่อโอกาสการสร้างรายได้มากขึ้น
ลงทุน “อาศัย” ทำเลสาทร-ญี่ปุ่น
ทางด้าน นายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้พัฒนาแบรนด์ “อาศัย” กล่าวว่า “อาศัย” เป็นแบรนด์กลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ในราคาที่จับต้องได้ สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแต่ละคน โดยร่วมงานกับช่างฝีมือท้องถิ่นในการออกแบบโรงแรมอาศัย ในแต่ละทำเล จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ให้กับผู้เข้าพักตามสโลแกน ‘Live Local’
โรงแรมอาศัย มีรูปแบบห้องพัก ที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัยขนาดกะทัดรัด (ประมาณ 15 ตร.ม). แต่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมถึงร้านอาหาร โดยเชฟชื่อดังในท้องถิ่น
“ในทุกแห่งที่เราไป โรงแรมอาศัย จะเสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับท้องถิ่นนั้นๆ ตั้งแต่การส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตัวเองได้ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ไปจนถึงการใช้ทรัพยากรที่หาได้ในท้องถิ่นและการลดปริมาณขยะและของเหลือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนทางสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง”
สำหรับโรงแรมอาศัยแห่งแรก ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางตลาดนัดสวนจตุจักร คาดเปิดให้บริการไตรมาส แรก ปี 2562 นอกจากยังมีอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมอาศัย 3 แห่งในประเทศฟิลิปปินส์ และอีก 1 แห่งในประเทศเมียนมา รวมถึงโรงแรมอาศัย ย่านสาทร กรุงเทพฯ ซอยสาทร 12 ซึ่งบริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง ด้วยงบประมาณ 460ล้านบาท จำนวน 106 ห้อง ราคาห้องพัก 1,800 บาทต่อคืน โดยทั้งหมดคาดว่าจะให้บริการได้ในปี 2562 รวมทั้ง 6 แห่ง มีจำนวน 1,000 ห้อง
ทั้งนี้ อาศัย โฮลดิ้งส์ มีแผนจะขยายโรงแรมอาศัย เพิ่มเป็น 10 แห่งภายในปี 2561 โดยเล็งทำเลเพิ่มเติมที่ สมุย และจะขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่น ที่โตเกียว และ โอซาก้า ภายใต้รูปแบบบริษัทร่วมทุนและสัญญารับจ้างบริหารงาน
