General

เปิดรายละเอียด ผลตรวจ ‘บอส อยู่วิทยา’ พบสารออกฤทธิ์จิตประสาท-โคเคน

เปิดรายละเอียดผลตรวจหา “สารแปลกปลอม” นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง แพทย์พบสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 4 และสารที่เกิดขึ้นหลังการเสพโคเคน 

นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงอัยการสูงสุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดัง ขับรถชนตำรวจจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พร้อมถามหาสาเหตุ ที่พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ไม่ตั้งข้อหาเสพโคเคน ซึ่งเป็นสารเสพติดประเภทสอง และไม่ดำเนินคดีข้อหาขับรถโดยเสพสารเสพติดประเภทสอ งในคดีนี้ตั้งแต่แรก ของการดำเนินคดี ทั้งที่ผลตรวจพบร่องรอบการเสพอย่างชัดเจน

cover บอส กระทิงแดง

ในจดหมายเปิดผนึก ถึงอัยการสูงสุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลักฐานที่นายอานนท์ แนบมาด้วย รวมถึง ผลการตรวจหาสารเสพติดของนายวรยุทธ จาก โรงพยาบาลรามาธิบดี  ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2555  ซึ่งมีเนื้อหาว่า

ภาควิชาพยาธิวิทยา ขอแจ้งเกี่ยวกับสารแปลกปลอม ที่พบในร่างกาย ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ตามที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ขอทราบข้อมูลดังต่อไปนี้

1. Alprazolam (อัลพาโซแลม) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 4 ตาม พ.ร.บ. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทฯ โดยทางการแพทย์อาจใช้เป็นยานอนหลับหรือยาแก้โรคทางจิตประสาท และสามารถพบในปัสสาวะได้นานถึง 3-5 วัน หลังเสพ

2. Benzoyleegorine เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือด ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย (Metabolism) หลังจากการเสพ Cocaine (โคเคน) ซึ่ง Cocaine เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2  ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ โดย Cocaine ปกติจะไม่พบปนอยู่ในยา หรืออาหาร และสามารถอยู่ในเลือดได้นานถึง 18-28 ชั่วโมงหลังเสพ

3. Cocacthylene เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือด ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย (Metabolism) หลังจากการเสพ Cocaine ร่วมกับแอลกอฮอล์

4. Caffeine (คาเฟอีน) ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษตามพ. ร. บ. ยาเสพติดให้โทษ และไม่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทตาม พ.ร.บ. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทฯ โดยเป็นสารที่พบได้ในชา กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำอัดลมชนิดน้ำคำ เป็นต้น และสามารถพบในปัสสาวะได้นานถึง 2-3 วัน หลังเสพ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบต่อไป

ลงชื่อ ผศ. พลอากาศตรี นายแพทย์ วิชาญ เบี้ยวนิ่ม

หัวหน้าสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา

คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง

ย้อนรอยคดี บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง 

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2555 นายวรยุทธ หรือบอส ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา มหาเศรษฐี ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ที่ขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อยู่​ จนร่างดาบตำรว จถูกลากไปไกลกว่า 200 เมตร เสียชีวิตห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร บริเวณปากซอยสุขุมวิท 49

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ขณะนั้น นำตำรวจ 200 นาย ล้อมบ้าน ต่อมาตำรวจท้องที่ได้นำตัวพ่อบ้านซึ่งมีหน้าที่ดูแลรถมามอบตัว

จากนั้น ในปี 2559  ตำรวจสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องได้เพียง 2 ข้อหาคือ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน

ขณะที่ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต หมดอายุความตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2556 หลังเกิดเหตุ 1 ปี

ตำรวจยังไม่ฟ้องข้อหาขับรถโดยขณะมึนเมาด้วย แม้จะมีคำสั่งฟ้องคดีดังกล่าว แต่ทีมทนายขอเลื่อนนัดต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง ส่งผลให้คดีขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดฯ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ มีอายุความ 1 ปี หมดอายุความลง

5 ข้อหา “บอส อยู่วิทยา”​

  • ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีนี้มีอายุความ 15 ปี สิ้นอายุความ​ ในเดือนกันยายน 2570
  • ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกชน หรือชนแล้วหนี อายุความ 5 ปี สิ้นอายุความเมื่อเดือนกันยายน 2560
  • ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อายุความ 1 ปี
  • ขับรถโดยขณะมึนเมา ขาดอายุความ
  • ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ขาดอายุความ

ทั้งนี้  นายวรยุทธ หลบหนี ออกจากประเทศไทยหลังได้รับการประกันตัว และเมื่อปี 2560 ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว AP ได้ติดตามไปพบนายวรยุทธ ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามใดๆ

หลังจากนั้นมีกระแสทวงถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ได้รับคำตอบว่าหาตัวนายวรยุทธไม่พบ​

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo