หลังครอบครัววรธรรมสูญเสีย โอ วรุฒ เมื่อปี 2561 ก่อนที่ พ่อแรม วรธรรม ดาราอาวุโส คุณพ่อของพระเอกผู้ล่วงลับ ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับอีกคน ด้วยอาการช็อกความดันต่ำ จากโรคหัวใจกำเริบ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นักแสดง-พิธีกรชื่อดัง นีโน่ เมทนี ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้าผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว หลังครอบครัววรธรรมสูญเสีย คุณแม่ปุ๊ อรพิน ที่เสียชีวิตจากไปอีกคน
ล่าสุด (7 ก.ค.) นีโน่ เมทนี ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านทาง อมรินทร์ ทีวี ถึงช่วงเวลาสุดท้ายของ คุณแม่ปุ๊ อรพิน โดยระบุว่า ก่อนที่แม่ปุ๊จะเสียชีวิต ท่านได้มีโอกาสคุยกับตนเรื่องการทำพินัยกรรม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย จึงให้ไปจัดเตรียมทนายความ และไปหาที่ จ.เชียงใหม่ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่สามารถเดินทางไปหากันได้
เมื่อเวลาผ่านไป ช่วงที่ก่อนแม่ปุ๊จะเสียชีวิต 1 สัปดาห์ ตนได้เดินทางไปหาแม่ปุ๊ที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดหานายอำเภอ และปลัดอำเภอเพื่อให้เป็นคนกลางหรือพยานที่มีน้ำหนักมากพอ แต่แม่ปุ๊ยังสวมเครื่องช่วยหายใจอยู่ จึงไม่สามารถทำได้ แม้จะพยักหน้ารับรู้ได้ แต่ไม่ถือว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
นีโน่ เมทนี ได้รอจนกระทั่งแม่ปุ๊ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งดูเหมือนว่าแม่ปุ๊จะอาการดีขึ้น สามารถแล้วตอบโต้ได้เบาๆ และไม่ต้องเจาะคอตามแผนการรักษาของแพทย์ในตอนแรก หลังจากนั้นพยาบาลก็ให้อาหารทางสายยาง แต่ในเวลาต่อมาชีพจรแม่ปุ๊เริ่มทำงานช้าลง จนกระทั่งเวลา 07.42 ท่านก็ได้จากไปอย่างสงบ
นีโน่ เมทนี ระบุอีกว่า แม่ปุ๊ยังได้ฝากฝังกับนีโน่ในเรื่องของการดูแลหลานหรือลูกๆ ของคุณโอ วรุฒ รวมถึงการแบ่งสรรปันส่วน อย่างบ้านที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมอบให้กับ คุณเอ้ก หลานชายหรือลูกชายคนโตของคุณโอ และเงินสดที่แฟนคลับร่วมทำบุญตั้งแต่คุณโอเสียชีวิตซึ่งยังเหลืออยู่เกือบ 1 ล้านบาท น่าจะมอบให้กับคนใกล้ชิดที่ดูแล้วแม่ปุ๊มาโดยตลอด รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวที่มีอยู่จำนวนหนึ่งแก่ลูกหลานตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ นีโน่ เมทนี เผยว่า แม่ปุ๊ไว้ใจให้ตนเป็นคนจัดการในเรื่องนี้ เพราะท่านเล็งเห็นว่า แม้ตนจะไม่ใช่ญาติโดยตรงแต่เป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างครอบครัวมาตลอด และนับถือกันเหมือนพี่เหมือนน้องในสายเลือด โดยไม่เคยหวังผลประโยชน์ใดๆ ซึ่งหากหน้าที่ทางพินัยกรรมตรงนี้จบลงก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของการดูแลครอบครัวของเพื่อนรักคนนี้
นอกจากนี้ นีโน่ เมทนี ยังเผยทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่ตนทำมาตั้งแต่โอเสียชีวิตเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ได้มองว่าเป็นภาระ และยังคงรู้สึกเหมือนคุณโออยู่ข้างๆ ตลอด ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปไหนก็ตาม เพราะเขายังเป็นห่วงคุณแม่ แต่นับจากนี้ทั้ง 3 ท่านน่าจะหมดห่วงและไปสู่ภพภูมิที่ดี
ขอบคุณที่มา อมรินทร์ ทีวี
