Finance

อย่าไปเชื่อ! คปภ.เตือน ‘ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด’ ระวังเสียประโยชน์

ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด ระวังเสียผลประโยชน์ คปภ. เตือน อย่าไปเชื่อคำชวน อาจได้เงินคืนน้อยกว่า เบี้ยประกันที่จ่ายไปแล้ว หรืออาจต้องจ่ายเบี้ยใหม่สูงกว่าเดิม 

จากกรณีที่มีผู้โทรศัพท์ติดต่อ ไปยังผู้เอาประกันภัย และชักชวนให้ ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด  เพื่อนำเงินไปทำ กรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับใหม่  โดยมีข้อเสนอว่า จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น อาทิ การเพิ่มทุนประกัน หรือ การเพิ่มเงินชดเชยค่าห้อง โดยจ่ายเบี้ยประกันเท่าเดิม การนำเบี้ยประกันภัยส่วนเกิน ที่ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้นำไปเพิ่มทุนประกันภัย และซื้อค่ารักษาเพิ่มขึ้นได้  โดยกล่าวอ้างว่า เป็นการปฏิบัติงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ คปภ.นั้น

ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า คปภ. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว พบว่า เป็นการชักชวน ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้เอาประกันได้

ผู้ชักชวนจะมุ่งเน้นไปยัง ผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่มีมูลค่าในกรมธรรม์ให้ยกเลิก และขอเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ก่อนครบกำหนดสัญญา ซึ่งอาจจะทำให้ ผู้เอาประกัน ได้รับเงินคืน ตามมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นจำนวนเงิน ที่น้อยกว่าเบี้ยประกันภัย ที่ชำระไปแล้ว หรือหากซื้อประกันชีวิตฉบับใหม่ อาจต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น เพราะมีความเสี่ยง เรื่องสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ตามอายุของผู้เอาประกันภัย

“ดังนั้น การชักชวนทางโทรศัพท์ เพื่อให้ยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต ก่อนครบกำหนดสัญญา จะทำให้ผู้เอาประกันภัย เสียประโยชน์ และส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันภัย จึงขอให้ ผู้เอาประกันภัย และประชาชนทั่วไป อย่าได้หลงเชื่อ คำชักชวนดังกล่าว โดยขอให้พิจารณา ด้วยความระมัดระวัง และตรวจสอบความถูกต้อง ของข้อมูล ไปยังบริษัทผู้รับประกันภัยโดยตรง หรือ สืบค้นข้อมูลประกันภัยได้ที่ เว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ.

นายสุทธิพล ระบุด้วยว่า การชักชวน ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด หากเป็นการกระทำ ของตัวแทน หรือนายหน้าประกันภัย ย่อมเข้าข่าย เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศ คปภ. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งนายทะเบียนมีอำนาจลงโทษ ด้วยการเพิกถอนใบอนุญาต เป็นตัวแทน หรือนายหน้าได้

นอกจากนี้ หากพิสูจน์ได้ว่า ผู้ใดดำเนินการชัดชวน ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด ดังกล่าว โดยทุจริต หลอกลวงผู้เอาประกันภัย ด้วยการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้นั้น ทำสัญญาประกันชีวิต กับบริษัท แต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันชีวิตเกิดขึ้น หรือไม่ดำเนินการ เกี่ยวกับการรักษาสถานะสัญญาประกันชีวิตเดิม และโดยการหลอกลวงดังกล่าว ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ยกเลิกประกันก่อนครบกำหนด

รวมไปถึงการกระทำ ด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ย่อมเข้าลักษณะ เป็นการฉ้อฉลการประกันภัย จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 114/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562

สำนักงาน คปภ. ได้สั่งการให้สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย บูรณาการร่วมกับ สายกฎหมายและคดี ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังบริษัทนายหน้าประกันภัย ตามที่ปรากฏชื่อแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป

ทั้งนี้ คปภ. ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ในการกำกับดูแลคนกลางประกันภัย ที่มีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ผ่านทุกช่องทาง โดยคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของประชาชน และผู้เอาประกันภัย เพื่อให้ได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ และได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ตามสัญญาประกันภัย ด้วยความถูกต้อง รวดเร็วและเป็นธรรม

หากประชาชนหรือผู้เอาประกันภัย ได้รับการชักชวนหรือเสนอขาย สามารถดาวน์โหลด แอฟพลิเคชั่น “รอบรู้ประกันภัย” ได้ฟรี เพื่อตรวจสอบข้อมูล ด้านการประกันภัยก่อนตัดสินใจ รวมถึงข้อมูลใบอนุญาตการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ของผู้ชักชวนว่า มีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ไปแล้วหรือไม่

โดยกรอกรายละเอียดของผู้ชักชวน อาทิ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ใบอนุญาต เป็นต้น หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo