Economics

ปล่อยกู้ชาวประมง 10,300 ล้าน! เสริมสภาพคล่อง เริ่มโครงการ 1 ก.ค.นี้

ปล่อยกู้ชาวประมง 10,300 ล้านบาท หวังช่วยเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ เริ่มโครงการ 1 กรกฎาคม 2563 – 25 พฤษภาคม 2564

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดี กรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง จะเปิดให้ชาวประมงพื้นบ้าน และพาณิชย์ เข้าร่วม “โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง” กรอบวงเงิน 10,300 ล้านบาท ซึ่งสามารถกู้เงิน ไปเสริมสภาพคล่อง ในการประกอบอาชีพได้ในอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยเอง 4% ต่อปี และรัฐชดเชยให้ 3% ต่อปี โครงการนี้ มีระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี กำหนดชำระคืนเงินกู้ ให้เสร็จภายในระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่วันที่กู้

โดยรูปแบบสินเชื่อแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าน้ำแข็ง เป็นต้น และสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการปรับปรุงเรือ ปรับเปลี่ยนเครื่องมือ และอุปกรณ์ทำการประมง

ปล่อยกู้ชาวประมง

โดยมีธนาคารของรัฐที่เข้าร่วม 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยวงเงินสินเชื่อ 5,300 ล้านบาท สนับสนุนเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส วงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท และธนาคารออมสิน ปล่อยวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท สนับสนุนเรือประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป วงเงินรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท

นายบัญชา กล่าวอีกว่า ชาวประมงพื้นบ้าน และชาวประมงพาณิชย์ที่ประสงค์ จะเข้าร่วมโครงการ ปล่อยกู้ชาวประมง ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นบุคคลธรรมดา อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
  • สัญชาติไทย
  • หรือ เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย
  • เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองในเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย
  • เป็นผู้ประกอบการประมงที่มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • กรณีเป็นผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ต้องมีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
  • ไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการได้รับใบอนุญาตทำการประมง ตามมาตรา 39 แห่งพระราชการกำหนดการประมง พ.ศ. 2558
  • ไม่เป็นผู้ที่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการประมง

สำหรับ หลักประกันเงินกู้เงิน ให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ที่ดินหรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีหนังสือแสดงเอกสารสิทธิสามารถจดทะเบียนจำนองได้ หรืออาคารชุด, เรือประมงที่มีการจดทะเบียนเรือไทยถูกต้องตามกฎหมาย, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) บุคคลค้ำประกัน และหลักประกันอื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด

ปล่อยกู้ชาวประมง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการประมงที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นความประสงค์ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 – 25 พฤษภาคม 2564 ได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล และสำนักงานประมงกรุงเทพมหานคร ตามพื้นที่ที่เรือประมงลำที่ยื่นกู้ทำการประมง

พร้อมแนบหนังสือรับรองการเข้าร่วมโครงการจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยหรือสมาคมประมงในพื้นที่หรือสมาคมประมงพื้นบ้านในพื้นที่ กรณีที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมใด ๆ สามารถติดต่อขอหนังสือรับรองได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดที่ยื่นคำขอ

“สั่งการไปยังสำนักงานประมงจังหวัดทุกแห่ง รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังสมาคมประมงต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ให้กับชาวประมงได้รับทราบโครงการดังกล่าว” นายบัญชา กล่าว

ทั้งนี้ หวังว่าโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมงจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงที่รายได้ลดลงและกลับมาประกอบอาชีพให้เกิดความมั่นคงได้มากขึ้น โดยสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www4.fisheries.go.th หรือโทร. 02-561-3353 ในวันเวลาราชการ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย กล่าก่อนหน้านี้ว่า จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ อนุมัติโครงการสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง วงเงินรวม 10,300 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมนั้น

ทั้งนี้ เป็นโครงการสินเชื่อประมงที่มีเงินมากที่สุด ครอบคลุมทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ครั้งแรกของประเทศ และยังเป็นโครงการที่เกิดจากการมีส่วนร่วมมากที่สุดของทุกภาคส่วน ภายใต้การทำงานของคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยกับกรมประมง และสมาคมประมงทุกสมาคม โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูฯ ในวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่กรมประมง เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ และเตรียมพร้อมในการคิกออฟเปิดโครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องประมงทันทีในเดือนมิถุนายน 2563

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo